ธุรกิจเดือนม.ค.ไม่ฟื้น จากผลกระทบโอมิครอนลาม ฉุดท่องเที่ยว-กำลังซื้อ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BSI) ในเดือนม.ค.ยังไม่ฟื้นตัว จากผลกระทบโอมิครอนลามหนักตั้งแต่ช่วงปลายปี กระทบกำลังซื้อ และการจ้างงาน

ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานผลสำรวจ "ความเชื่อมั่นทางธุรกิจ (BSI) เฉพาะกิจ ผลกระทบจากไวรัส COVID-19 ต่อภาคธุรกิจไทย  โดยธุรกิจยังทรงตัวจากเดือนธ.ค.ปีที่ผ่านมา

ในเดือนมกราคม 2565 ระดับการฟื้นตัวของธุรกิจโดยรวมใกล้เคียงกับเดือนก่อนหน้า โดยยังคงถูกกดดันจากปัญหาการขนส่งที่ยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ กำลังซื้อที่อ่อนแอ และความกังวลการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ Omicron

ดัชนีเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงต่อเนื่อง

สภาอุตสาหกรรมเผยเศรษฐกิจชะลอตัว ดัชนีความเชื่อมั่นลดลง

เศรษฐกิจเดือนธ.ค.ขยับดีขึ้น แต่โชคร้าย "โอมิครอน" ฉุดช่วงต้นปี

 

 

อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของภาคธุรกิจในภาคการค้าปรับดีขึ้นจากธุรกิจค้าปลีกยานยนต์เป็นสำคัญ ส่วนหนึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากงาน motor expo ในเดือน ธ.ค. 2564 ขณะที่ธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารค่อนข้างทรงตัว

ธุรกิจทั้งในภาคการผลิตและภาคที่มิใช่การผลิตมีความกังวลเกี่ยวกับปัญหาการขนส่งเพิ่มขึ้น ขณะที่กังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดระลอกใหม่อยู่ในระดับน้อยถึงปานกลาง ส่วนหนึ่งมาจากการควบคุมการแพร่ระบาดและอัตราการฉีดวัคซีนที่ดีขึ้น รวมถึงความรุนแรงของเชื้อไวรัสที่ลดลง

กกร.ค้านขึ้นค่าแรงทั่วประเทศ หวั่นสินค้าแพงขึ้น ด้านเศรษฐกิจยังมีปัจจัยเสี่ยง

การฟื้นตัวของระดับการจ้างงานโดยรวมปรับลดลงจากเดือนก่อน ทั้งในด้านจำนวนและรายได้แรงงานของทั้งภาคการผลิตและภาคที่มิใช่การผลิต สอดคล้องกับการใช้นโยบายปรับเปลี่ยนการจ้างงานที่ปรับเพิ่มขึ้นเกือบทุกประเภท โดยเฉพาะในธุรกิจอสังหาฯ และก่อสร้าง รวมถึงธุรกิจโรงแรม และคลังสินค้า

ภายใต้ภาวะที่ต้นทุนสูงขึ้น ธุรกิจมากกว่าครึ่งหนึ่งยังไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นราคา และบางส่วนจะใช้วิธีการอื่น แทนการปรับราคา ขณะที่รายได้ของธุรกิจส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจาก Omicron ค่อนข้างจำกัดความกังวลต่อการแพร่ระบาดระลอกใหม่อยู่ในระดับน้อยถึงปานกลาง โดยรายได้ของธุรกิจส่วนใหญ่เท่าเดิมหรือลดลงไม่เกิน 10% ส่วนหนึ่งมาจากการควบคุมการระบาดและอัตราการฉีดวัคซีนที่ดีขึ้น รวมถึงความรุนแรงของเชื้อไวรัสที่ลดลง ทั้งนี้ ความกังวลส่วนใหญ่มาจากต้นทุนสาธารณสุขที่เพิ่มขึ้นและกำลังซื้อที่เปราะบางเป็นสำคัญ 

ธุรกิจมากกว่าครึ่งหนึ่งยังไม่มีแนวโน้มปรับขึ้นราคาสินค้าและบริการในอีก 3 เดือนข้างหน้า ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภาคบริการที่ต้นทุนยังไม่ปรับเพิ่มสูงเท่ากับภาคการผลิต และกลุ่มอสังหา ฯ และก่อสร้างที่กำลังซื้อยังเปราะบาง โดยธุรกิจที่ยังไม่ปรับราคา ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการอื่นแทนการปรับราคา เช่น การปรับลดโปรโมชั่น การลดปริมาณ ลดคุณภาพ หรือการออกสินค้ารุ่นใหม่ เพื่อเป็นการลดต้นทุน และบางส่วนสามารถแบกรับต้นทุนได้นานถึง 12 เดือน

เตือนร้านค้า-ประชาชน ห้ามแลกสิทธิ “คนละครึ่งเฟส 4” เป็นเงินสด

สำหรับธุรกิจที่มีแนวโน้มปรับเพิ่มราคา ส่วนใหญ่คาดว่าจะปรับได้ไม่เกินร้อยละ 10 ของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น เช่น ธุรกิจผลิตยางและพลาสติก ผลิตอาหารและเครื่องดื่ม เป็นต้น

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ