ความวิตกกังวลจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน จะกระทบไปทั่วโลก ทำให้คู่ค้าข้าวของไทย สั่งซื้อข้าวเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ปริมาณส่งออกเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 38.3% เฉลี่ย 2 เดือนแรก (ม.ค.-ก.พ.) เพิ่มขึ้น 28.9%
คาดว่าในเดือนมี.ค. ส่งออกข้าวอยู่ที่ประมาณ 700,000 ตัน เนื่องจากประเทศผู้นำเข้า ยังคงมีความต้องการนำเข้าข้าวอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีข้าวเพียงพอสำหรับบริโภคในประเทศในช่วงที่สถานการณ์การสู้รบระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนยังไม่คลี่คลาย
คาดเศรษฐกิจไทยเริ่มกระทบจากสงครามยูเครน ธุรกิจท่องเที่ยวเจอกลุ่มแรก
ส่งออก ก.พ.โต 16.2% ตลาดรัสเซียอันดับหนึ่ง สงครามยังไม่กระทบ
ที่มา: สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
การส่งออกข้าวในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีปริมาณ 635,919 ตัน มูลค่า 10,396 ล้านบาท โดยปริมาณและมูลค่าส่งออก เพิ่มขึ้น 38.3% และ 30.2% ตามลำดับ เมื่อเทียบกับเดือนมกราคม 2565 ที่มีปริมาณ 459,752 ตัน มูลค่า 7,987 ล้านบาท
เนื่องจากในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา การส่งออกข้าวทุกชนิดมีปริมาณเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อน เนื่องจากผู้นำเข้าต่างเร่งนำเข้าข้าวเพื่อเก็บสต็อกไว้ เพราะกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การสู้รบระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนที่คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อภาวะตลาด รวมทั้งการขนส่งระหว่างประเทศ
ในเดือนกุมภาพันธ์ 2565 มีการส่งออกข้าวขาวปริมาณรวม 355,956 ตัน เพิ่มขึ้น 36.97% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ส่งไปยังประเทศอิรัก จีน สหรัฐอาหรับอิมิเรตส์ ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์ เบนิน เปอร์โตริโก เป็นต้น
ขณะที่การส่งออกข้าวหอมมะลิ (ต้นข้าว) มีปริมาณ 112,338 ตัน เพิ่มขึ้น 6.43% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน โดยส่วนใหญ่ยังคงส่งไปยังตลาดประจำ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน ฮ่องกง แคนาดา ออสเตรเลีย สิงคโปร์ เป็นต้น
ส่วนข้าวนึ่งมีการส่งออกปริมาณ 63,711 ตัน เพิ่มขึ้น 73.32% เมื่อเทียบกับเดือนก่อน ส่วนใหญ่ส่งไปยังตลาดหลัก เช่น แอฟริกาใต้ เยเมน เป็นต้น
ที่มา: สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย
สมาคมฯคาดว่าในเดือนมีนาคม 2565 การส่งออกข้าวจะอยู่ที่ประมาณ 700,000 ตัน เนื่องจากประเทศผู้นำเข้าที่สำคัญในแถบตะวันออกกลาง (เช่น อิรัก อิหร่าน) เอเชีย (เช่น จีน ญี่ปุ่น) และแอฟริกา ยังคงมีความต้องการนำเข้าข้าวอย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีข้าวเพียงพอสำหรับบริโภคในประเทศในช่วงที่สถานการณ์การสู้รบระหว่างประเทศรัสเซียและยูเครนยังไม่คลี่คลาย ซึ่งทำให้เกิดภาวะตึงตัวในกลุ่มสินค้าธัญพืชที่สำคัญ เช่น ข้าวโพด ข้าวสาลี ส่งผลให้มีความต้องการใช้ข้าวเพื่อทดแทนสินค้าทั้งสองชนิดมากขึ้น
ประกอบสถานการณ์ราคาข้าวไทยในช่วงนี้ค่อนข้างทรงตัว จากการที่ค่าเงินบาทมีทิศทางอ่อนค่าลง ส่งผลให้ราคาข้าวขาว 5% ของไทย ณ วันที่ 30 มีนาคม 2565 อยู่ที่ 426 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่ราคาข้าวขาว 5% ของเวียดนาม อินเดีย และปากีสถาน อยู่ที่ 418-422, 343-347 และ 358-362 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ตามลำดับ
ด้านราคาข้าวนึ่งไทยอยู่ที่ 441 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ขณะที่ข้าวนึ่งของอินเดีย และปากีสถานอยู่ที่ 363-367 และ 386-390 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน
ราคาทองวันนี้ พลิกบวก 50 บาท พื้นตัวหลังไม่หลุดแนวรับ 1,924 ดอลลาร์
ชี้ช่องเอาตัวรอดจาก “วิกฤตปุ๋ยแพง”