อินโดนีเซีย ยกเลิก "ห้ามส่งออกน้ำมันปาล์ม" เริ่ม 23 พ.ค.นี้ หลังเจอชาวสวนกดดัน

นายกฯ สั่งดูแลควบคุมราคาน้ำมันปาล์ม พบค้ากำไรเกินควรมีโทษจำคุก

14 ประเทศ “ระงับส่งออกสินค้าอาหาร” ส่อขาดแคลนทั่วโลก

รัฐบาลอินโดนีเซีย ได้ออกคำสั่งระงับการส่งออกน้ำมันปาล์มทั่วประเทศ เมื่อตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. 65 ที่ผ่านมา เพื่อพยายามควบคุมราคาน้ำมันพืชปรุงอาหารในประเทศไม่ให้สูงขึ้น 

แม้ขณะนี้ ราคาน้ำมันพืชปรุงอาหารในอินโดนีเซีย ยังปรับลดไม่ถึง 14,000 รูเปียห์ต่อลิตร หรือประมาณ 32 บาท ตามที่รัฐบาลตั้งเป้าหมายไว้  แต่นายโจโก วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ให้เหตุผลการออกคำสั่งนี้ว่า

เนื่องจากรัฐบาลคำนึงถึงสวัสดิภาพของแรงงานทั้ง 17 ล้านคน ที่อยู่ในอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม และเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า อุปทานน้ำมันพืชประกอบอาหารในประเทศ มีปริมาณสูงเกินกว่าที่ตลาดต้องการแล้ว

“ราคาเฉลี่ยน้ำมันพืชประกองอาหารก่อนถูกสั่งห้ามไม่ให้ส่งออก เฉลี่ยอยู่ที่ 19,700 รูเปียห์ต่อลิตร (ประมาณ 46 บาท) และหลังจากถูกสั่งห้ามส่งออก ราคาได้ปรับลดลงอยู่ระหว่าง 17,200 ถึง 17,600 รูเปียห์ต่อลิตร (ประมาณ 40-41.22 บาท)” ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย กล่าว

อย่างไรก็ตาม จุดประสงค์ของคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มของรัฐบาล เพื่อหวังควบคุมราคาน้ำมันปาล์มในประเทศไม่ให้สูงขึ้น แต่กลับถูกคัดค้านอย่างหนักจากชาวสวนปาล์ม เนื่องจากตลาดมีความต้องการใช้ผลปาล์มลดลงอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้คำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์มของอินโดนีเซีย ได้สร้างผลกระทบต่อตลาดน้ำมันพืชทั่วโลกไปด้วย เนื่องจากน้ำมันปาล์ม มีปริมาณสัดส่วนคิดเป็น  1 ใน 3 ของตลาดน้ำมันพืชทั่วโลก และอินโดนีเซีย ถือเป็นผู้ผลิตน้ำมันปาล์มมากที่สุดในโลกถึง 60%

อัปเดตข่าวล่าสุดก่อนใคร Add friend ได้ที่ @PPTVOnline