ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย (ADB) ระบุว่ามาตรการล็อกดาวน์ของจีนได้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวเศรษฐกิจ ซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวต่ำกว่าประเทศตลาดเกิดใหม่ในเอเชียเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 30 ปี
เอดีบี ออกรายงานมุมมองเศรษฐกิจเอเชีย โดยได้ปรับลดอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้ เหลือ 3.3% จากเดิม 5% เมื่อเดือนเม.ย. และลดการคาดการณ์ปีหน้าเหลือ 4.5% จากเดิม 4.8%
ราคาน้ำมันโลกชะลอตัวขาลง จับตาผลประชุมเฟด คาดขึ้นดอกเบี้ยแรง
คาดประชุม “เฟด” ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% หนุนดอลลาร์แนวโน้มแข็งค่า กดเงินบาทอ่อน
เอดีบีคาดการณ์เงินเฟ้อในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลก
จากนโยบายโควิดเป็นศูนย์ของรัฐบาลจีน ทำให้กระทบต่อกิจกรรมทางเศรษบกิจของประเทศอย่างรุนแรง แม้ว่าประเทศอื่นได้ลดมาตรการจำกัดการเดินทางและเริ่มเปิดประเทศ
เอดีบีระบุว่ามาตรการล็อกดาวน์ของทางการจีน ซ้ำเติมผลกระทบด้านอื่น โดยส่วนใหญ่มาจากผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งทำให้อาหารและเงินเฟ้อที่มาจากราคาพลังงานปรับสูงขึ้น และทำให้ประเทศพัฒนาแล้วหลายประเทศพากันขึ้นดอกเบี้ย
เอดีบีคาดว่าประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียจะมีอัตราการเติบโตเศรษบกิจในปีนี้เหลือ 4.3% จากคาดการณ์เดิม 5.2% เมื่อเดือนเม.ย. และในปีหน้าจะขยายตัว 4.9% จากคาดการณ์เดิม 5.3%
ประเทศกำลังพัฒนาในเอเชียเริ่มฟื้นตัว แต่ความเสี่ยงยังมีอยู่มาก โดยเฉพาะการชะลอตัวของเศรษบกิจโลก จะกระทบต่อการส่งออกของหลายประเทศ ส่วนการดำเนินนโยบายการเงินเข้มงวดขึ้นด้วยการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสู้กับเงินเฟ้อ จะทำให้ตลาดเงินผันผวน ในขณะที่มาตรการล็อกดาวน์จากจีนจะกระทบเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศและภาคอสังหาริมทรัพย์
เอดีบีคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในเอเชียปีนี้ จะอยู่ที่ 4.5% เพิ่มจาก 3.7% ในการประมาณการครั้งก่อน และจะทรงตัวที่ระดับ 4.0% ในปีหน้า แต่ยังสูงกว่าคาดการณ์เดิมที่ 3.1%
เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจะกระทบต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในเอเชีย คาดว่าจะขยายตัว 6.5% ในปีนี้ จากคาดการณ์เดิม 7.0% สำหรับประเทศอินเดีย ที่เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียใต้ จะขยายตัว 7.0% จากเดิม 7.5% และขยายตัว 7.2% ในปีหน้า
ประเทศในอาเซียนคาดว่าจะขยายตัว 5.1% เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์เดิม 4.9% และจะขยายตัว 5.0% ในปีหน้า โดยประเทศในอาเซียนที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง คือ อินโดนีเซีย ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยคาดว่าจะขยายตัว 5.4% จากเดิม 5.0% และฟิลิปปินส์จะขยายตัว 6.5% จากคาดการณ์เดิม 6.0%