เงินบาทสัปดาห์นี้ "แข็งค่า" ซื้อขายในกรอบ 37.10-37.95
ใช้น้ำมันดีเซล-น้ำมันเตา ทดแทนก๊าซธรรมชาติที่มีราคาสูง
ลอยกระทงปี 65 คึกคัก คนแห่ซื้อกระทง แม้วัสดุแพงขึ้น
เมื่อวันนี้ (7 พ.ย.65) สถานการณ์น้ำมันโลกเช้านี้ ราคาลดลงกว่า 1% หลังพุ่งสูงขึ้นมากกว่า 5% เมื่อวันศุกร์ (4 พ.ย.) ท่ามกลางความหวังธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ เฟด (FED) ชะลอขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังคงมีปัจจัยกดดันจากสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด -19 ในประเทศจีน ที่ล่าสุดยอดติดเชื้อทำสถิติใหม่ในรอบหลายเดือนน
ราคาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบทั่วโลก
• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ปรับลดลง 1.23 ดอลลาร์ หรือ -1.259% ล่าสุดอยู่ในระดับ 97.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังพุ่งขึ้นมาราว 4% เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
• สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเวสต์เท็สซัส (WTI) ปรับลดลง 1.50 ดอลลาร์ หรือ -1.61% ล่าสุดอยู่ในระดับ 91.70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังพุ่งขึ้นมาราว 5% เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา
โดยปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันโลกกระโดดพุ่งสูงขึ้นราว 5% เนื่องจากมีกระแสข่าวว่ารัฐบาลจีนเตรียมผ่อนคลายมาตรควบคุมโควิดที่เข้มงวด รวมถึงยุติการล็อกดาวน์ในหลายเมือง
แต่เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (5 พ.ย.65) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของจีน ยืนยันว่าจะยังคงใช้มาตรควบคุมโควิด-19 ที่เข้มงวดต่อไป หลังจากจีนรายตัวเลขผู้ติดเชื้อล่าสุดรายใหม่ อยู่ที่ 4,420 ราย สูงสุดในรอบ 6 เดือน
ด้านเทรดเดอร์ มองว่า สาเหตุที่น้ำมันราคากลับมาร่วง เพราะจีนยืนยันจะใช้มาตรการเข้มงวดคุมโควิด-19 ต่อไป เนื่องจากยอดติดเชื้อยังพุ่งสูง อาจทำให้จีนออกมาตรการจำกัดเพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะทำให้ความต้องการใช้พลังงานในลดลงเพิ่มขึ้อีก
ขณะเดียวกัน สหรัฐฯรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ต.ค. ปรับเพิ่มขึ้น 3.7% สูงขึ้นจาก 3.5% ในเดือน ก.ย. บ่งชี้ว่าตลาดแรงงานเริ่มผ่อนคลายลง ตลาดมองว่าอาจทำให้ เฟด ปรับขึ้นดอกเบี้ยน้อยลง ซึ่งจะกดดันให้เงินดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า และส่งผลดีต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ หนุนให้ความต้องการใช้พลังงานกลับมาเพิ่มขึ้น