อาคม ส่งต่อ 3 นโยบายถึงรัฐบาลหน้า มอง 5 เรื่องเดินหน้าอนาคตเศรษฐกิจ


โดย PPTV Online

เผยแพร่




อาคม เผย 3 นโยบายยังมีผลครอบคลุมถึงรัฐบาลหน้า พร้อมมอง 5 เรื่องต้องเกิดขึ้นเพื่อเดินหน้าอนาคตเศรษฐกิจไทย

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังขึ้นปาฐกถาภายในงานสัมมนาเศรษฐกิจประจำปี 2566 ของสมาคมเศรษฐศาสตร์ธรรมศาสตร์ (22 มี.ค.66) ถึง 3 นโยบายในระหว่างรอรัฐบาลใหม่นั้น ยังคงมีมาตรการ เราเที่ยวด้วยกัน บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และมาตรการลดภาษีดีเซล ที่จะมีจนถึงเดือน ส.ค.66 จึงคาดว่า ระยะเวลาน่าจะครอบคุมเพียงพอไปจนถึงรัฐบาลหน้าส่วนในช่วงเลือกตั้ง กระทรวงการคลังจะไม่มีมาตรการใหม่ออกมา แต่ถ้ามีความจำเป็นต้องใช้งบก็เสนอได้ ซึ่งต้องไม่มีภาระผูกพันธ์ไปถึงรัฐบาลหน้า

คอนเทนต์แนะนำ
เปิด 11 รายชื่อ รถไฮไลท์ในงาน Motor Show 2023 จัดเต็มหลังอั้นมานาน !
พยากรณ์อากาศ 7 วันข้างหน้า เฝ้าระวัง "พายุฤดูร้อน" 25-27 มี.ค.นี้

 

 

 

และขอได้ให้อยู่ในกรอบงบประมาณ จากนั้นเสนอ ครม. และส่งต่อไปที่ กกต. เพื่อให้ความเห็นชอบอีกครั้ง

นอกจากนี้ ยังได้กล่าวถึงกรณีธนาคารเครดิตสวิส ซึ่งทางธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แจ้งว่า ไทยไม่มีธุรกรรมใดกับธนาคารเครดิตสวิส และการลงทุนของกองทุนมีสัดส่วนน้อย ยืนยันไม่มีปัญหา เพราะไทยมีการกำกับดูแลสถาบันการเงินอย่างเข้มแข็ง

ส่วนความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวนั้น เห็นได้จากภาคส่งออกไทยตั้งแต่ไตรมาส 4/65 มีการหดตัวลง ต้องคอยติดตามต่อไป และต้องพยายามเข้าไปหาตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะเพื่อนบ้านอย่างในอาเซียน ในช่วงนี้เงินบาทแข็งค่า มีปัจจัยหลักมาจากเงินดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนตัว โดยต้องดูท่าทีของ เฟด ว่าจะดำเนินนโยบายอย่างไรต่อไป รวมถึงปัจจัยภายนอกต่างๆ

ขณะที่ เรื่องงบประมาณปี 67 ที่จะล้าช้าออกไปนั้น ยังสามารถใช้งบประมาณต่างๆ ก่อนได้ ทั้งรายจ่ายประจำ หรือรายจ่ายผูกพันธ์ยังใช้ได้อยู่ เช่น งบเงินเดือน ค่าน้ำ ค่าไฟ แต่จะยกเว้นงบโครงการใหม่จะใช้ไม่ได้

แต่จะกระทบการเติบโตเศรษฐกิจหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับรัฐบาลใหม่จะเข้ามาเร็วได้มากแค่ไหน แต่เชื่อว่ารัฐบาลชุดใหม่ที่มา ก็จะเดินหน้าเร่งทบทวนนโยบายงบประมาณ 67 ให้เร็วขึ้น

2 นักเศรษฐศาสตร์ ฝากรัฐบาลใหม่ ห่วงนโยบายขึ้นค่าแรง - แจกเงิน

ราคาทองวันนี้ ปิดตลาดร่วง 300 บาท ขายทำกำไร รอลุ้นผลเฟดคืนนี้

อย่างไรก็ตาม บนเวทีปาฐกถา นายอาคม กล่าวถึงอนาคตเศรษฐกิจไทยจะเดินหน้าอย่างไร มองว่ามี 5 เรื่อง

1.ทำนโยบายการเงินการคลังมหาภาคให้ไปด้วยกัน  คือ ความยั่งยืน ปัจจุบันรายได้ต่อจีดีพีอยู่ที่ 13% ต่ำกว่ามาตรฐานของประเทศ อื่นๆ ทั้งที่ในอดีตไทยอยู่ที่ 17-18% ทำให้ไทยขาดดุลต่อเนื่อง ซึ่งต้องปรับตัวกันต่อไป เพื่อให้รายจ่ายประเทศเพียงพอ  ความมั่นคง คือการดูแลอัตราเิงนเฟ้อและการว่างงาน

2.เศรษฐกิจใหม่ (New Economy) ต้องสร้างการเติบโตในอุตสาหกรรมใหม่ โดยเฉพาะการลงทุนในอีอีซี ที่เป็นธงนำของรัฐบาลต้องทำให้ประสบความสำเร็จ ทั้งการลงทุนโครงสร้างพื้นที่ และอุตสาหรรมใหม่ โดยเฉพาะอิเล็กทรอนิกส์ เป็นหนึ่งในเป้าหมายอุตสาหกรรมของรัฐบาล

3.เศรษฐกิจสร้างสรรค์  (Creative Economy) โดยดึงการลงทุนด้านดิจิทัลเข้าประเทศมากขึ้น ปัจจุบันดาต้าเซ็นเตอร์เป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมด้านดิจิทัล โดยขณะนี้ในไทยมีดาต้าเซ็นเตอร์ของต่างชาติ 11 บริษัท และสหรัฐฯ เป็นรายล่าสุด แต่ยังมีน้อยเมื่อเทียบกับอาเซียน

ดังนั้น การลงทุนใหม่ๆเข้าประเทศเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องช่วยกัน โดยสิ่งที่ต่างชาติให้ความสำคัญ คือ เรื่องมาตรการทางภาษี และความมีเสถียรภาพในด้านไฟฟ้า

4.อุตสาหรรมลดการปล่อยคาร์บอนด์ หลายประเทศเน้นใช้รถอีวีมากขึ้น ดังนั้น กระทรวงการคลังต้องมีมาตรการที่จะช่วยให้รถอีวีมีราคาใกล้เคียงรถในปัจจุบัน ด้วยการลดภาษีทั้งอุตสาหกรรมอีวี และอุดหนุนผู้ซื้อผ่านโรงประกอบรถอีวี ในเงื่อนไข คือ ต้องตั้งโรงงานประกอบรถอีวีในไทย และทดแทนรถในปัจจุบันให้ได้ถึง 30% ภายในปี 2030 นอกจากนี้ ยังมีมาตรการลดภาษีให้กับอุตสากรรมอื่นๆ ที่ดำเนินโครงการลดปริมาณคาร์บอนด้วย

ขณะที่ในด้านพลังงานเอง ต้องเปลี่ยนจากใช้ฟอสซิล ไปใช้พลังงานสะอาด โดยแนวทางของธนาคารระหว่างประเทศ จะเริ่มไม่ให้เงินกู้โรงไฟฟ้าถ่านหิน และจะปล่อยกู้โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ขณะที่ Financing คือ โครงการให้สินเชื่อ เชื่อว่า ทุกสถาบันการเงินจะร่วมมือสนับสนุนทางการเงินในแนวทางลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

5.การปรับโครงสร้างรายได้ของไทย สิ่งสำคัญคือ งบประมาณแผ่นดิน ต้องเน้นด้าน Human capital มากขึ้น โดยคนที่ออกจากงานเดิมไปเริ่มงานใหม่ ก็ต้องเรียนทักษะใหม่   

คนรุ่นใหม่ที่เข้าสู่อุตสาหกรรมก็ต้องมีทักษะใหม่เช่นกัน ดังนั้นการลงทุนการศึกษา หรือทรัพยากรมนุษย์ ต้องมุ่งเน้นให้ตรงตามเป้าหมายที่จะผลิตคนเพื่อป้อนอุตสาหกรรมในปัจจุบัน

นอกจากนั้น นายอาคม ยังบอกด้วยว่า เศรษฐกิจไทยที่ประมาณการกันไว้ที่ 3-4% สิ่งที่สามารถจะกระตุ้นเพิ่มได้คือ การลงทุนภาครัฐต้องทำอย่างต่อเนื่อง การท่องเที่ยวส่วนหนึ่ง และ Soft Power ส่วนภาคส่งออกยังคงติดลบ เพราะได้รับผลกระทบจากเศรษฐิกิจโลกชะลอตัว 

สำหรับปัจจัยที่มีกระทบต่อเศรษฐกิจไทย มีทั้ง สงครามที่ทำให้ราคาอาหารและพลังงานเพิ่มขึ้น เศรษฐกิจโลกชะลอตัวที่กระทบส่งออก และปัญหาล่าสุดธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรป

คอนเทนต์แนะนำ
"บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2565" รีบยืนยันตัวตน มิเช่นนั้นสิทธิจะลดลง!
ออมเงินให้บุตรหลาน เดือนละ 300 เดือนถัดไปรับเงินสมทบเพิ่ม 150 บาท
กางปฏิทินจ่ายเงินเดือนข้าราชการ ค่าจ้างลูกจ้างประจำ บำนาญ ปี 2566
#เลือกตั้ง2566 : ศึกคนใน? พรรคก้าวไกล ไร้ชื่อหัวหอกลง ส.ส. | เข้มข่าวเย็น | 21 มี.ค. 66

TOP เศรษฐกิจ
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ