1. สมองทำงานไม่เต็มที่
การนอนไม่พอจะทำให้รู้สึกเซื่องซึม เฉื่อยชาไปทั้งวัน อาจส่งผลให้ทำงานผิดๆถูกๆ หรือเผลอทำอะไรซุ่มซ่ามไปโดยไม่รู้ตัวได้ ซึ่งมีงานวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่า คนที่นอนน้อยจะมีแนวโน้มในการทำงานที่แย่ลง มากกว่าคนที่นอนเต็มอิ่ม
2. มีปัญหาสุขภาพ
การนอนไม่พอทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น อุณหภูมิร่างกายต่ำลง หัวใจเต้นผิดจังหวะ ระบบภูมิคุ้มกันทำงานบกพร่อง จำนวนเม็ดเลือดขาวลดลง และมีอาการเฉื่อยชา ส่วนคนที่เป็นโรคเบาหวานและนอนไม่พอ ร่างกายจะเผาผลาญน้ำตาลลดลง ทำให้การโต้ตอบอินซูลินลดน้อยลงไปด้วย ส่งผลให้ร่างกายไม่อาจควบคุมน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมได้
3. กินไม่หยุด
เมื่อเราไม่ได้นอนทั้งคืน สมองจะหลั่งฮอร์โมนที่เกี่ยวกับความอยากอาหารเพิ่มขึ้น และจะหลั่งฮอร์โมนที่เตือนเราว่าอิ่มแล้ว ลดน้อยลง เพราะเมื่ออดนอน ร่างกายจะเผาผลาญน้ำตาลช้าลง ผลก็คือ นอกจากจะอยากกินอาหารจำพวกแป้งแล้ว ยังอยากกินพวกของหวานและของเค็มด้วย เรียกว่ากินได้เรื่อยๆตลอดทั้งคืน
4. มีอารมณ์แปรปรวน
การอดนอนจะเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการซึมเศร้า เหนื่อยล้า และขาดความเห็นใจผู้อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคนที่มีอาการเหล่านี้อยู่แล้ว การนอนไม่พอจะทำให้อาการรุนแรงยิ่งขึ้น งานวิจัยชิ้นหนึ่งระบุว่า เด็กที่นอนน้อยกว่าวันละ 10 ชม. มีโอกาสสูงกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ที่จะแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมออกมา
5. ความต้องการทางเพศลดลง
เมื่อเรานอนพักผ่อนไม่เพียงพอแล้ว จะทำให้ฮอร์โมนในร่างกายสูญเสียความสมดุล จนทำให้ความต้องการทางเพศลดลงในที่สุด เพราะฉะนั้นถ้าต้องการกระตุ้นความต้องการส่วนนี้ ควรหันมาทาน อะโวคาโด ที่มีวิตามินบี 6 ก่อนนอน เพื่อเป็นการกระตุ้นฮอร์โมนเพศชายไปในตัวได้ด้วย
เห็นผลเสียแบบนี้กันไปแล้ว ก็ควรให้เวลากับการพักผ่อนแก่ร่างกายของเราอย่างเต็มที่นะคะ เพื่อผลดีทั้งทางร่างกายและจิตใจด้วยค่ะ
ข้อมูลจากเว็บ lifehack และ wegointer