เรเชล บรอนสัน ประธานคณะกรรมการด้านวิทยาศาสตร์และความมั่นคงของ Bulletin of the Atomic Scientists กล่าวว่า ภัยคุกคามเรื่องการใช้อาวุธนิวเคลียร์จากรัสเซียที่ปกคลุมโลกตอนนี้ เป็นเครื่องเตือนถึงการยกระดับความขัดแย้งทั้งอย่างไม่ตั้งใจ อย่างตั้งใจ หรือการคำนวณผิดพลาดที่เป็นความเสี่ยงอันร้ายแรง ความเป็นไปได้ที่ว่าความขัดแย้งอาจยากเกินการควบคุมยังอยู่ในระดับสูง
เทรนด์สีรถยนต์ประจำปี 2023 "สี Techno Blue" โดนเด่น เปล่งประกาย มีพลัง
IMF เตือน 1 ใน 3 ของเศรษฐกิจโลกเข้าสู่ภาวะถดถอยปีนี้
นาฬิกาวันสิ้นโลก (Doomsday Clock) เมื่อเดินถึงเวลาเที่ยงคืน ซึ่งเป็นการเปรียบเทียบเชิงสัญลักษณ์ถึงจุดสิ้นสุดของมนุษยชาติ ในปี 2023 ถูกขยับเข็มให้ลดลงไป 10 วินาที เหลือเพียง 90 วินาที ก่อนถึงเที่ยงคืน ถือเป็นเวลาที่สั้นที่สุดในรอบ 3 ปี ตั้งแต่ปี 2020 เข็มนาฬิกายังอยู่ที่ 100 วินาทีก่อนเที่ยงคืน
การลดลงของเวลาสะท้อนสถานการณ์โลกที่สุ่มเสี่ยงจากการที่รัสเซียบุกยูเครน ทำให้เกิดความหวาดกลัวต่อสงครามนิวเคลียร์ที่อาจเกิดขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีอีหหลายปัจจัยที่เป็นสาเหตุให้มีการปรับเวลา ทั้งปัญหาสภาพอากาศแปรปรวน น้ำท่วม ภัยแล้ง ไฟป่า หิมะตกหนัก สภาพอากาศที่เลวร้ายสุดขั้ว
สำหรับนาฬิกาวันสิ้นโลกตั้งอยู่ที่สำนักงานจดหมายข่าวฯ ในมหาวิทยาลัยชิคาโก สหรัฐอเมริกา ถูกเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2490 หรือราว 76 ปีที่แล้ว โดยกลุ่มนักวิทยาศาสตร์ด้านนิวเคลียร์ ซึ่งรวมถึง อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ พวกเขาตั้งเข็มนาฬิกาไว้ที่เวลา 7 นาทีก่อนเที่ยงคืน เพื่อเตือนถึงความเสี่ยงที่มนุษยชาติอาจถูกทำลายจากสงครามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและสหภาพโซเวียตในยุคสงครามเย็น
ในช่วงแรก นาฬิกาวันสิ้นโลกถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นตัวแทนบ่งบอกความเสี่ยงจากสงครามนิวเคลียร์ แต่ปัจจุบัน ปัจจัยความเสี่ยงที่ใช้ในการคำนวณหายนะของมนุษยชาติ ประกอบด้วย วิกฤติและมหันตภัยต่างๆ ที่เกิดขึ้นรอบโลก ถ้าสถานการณ์ดีขึ้นก็มีโอกาสที่นาฬิกาจะถูกขยับห่างออกจากเที่ยวคืน
นาฬิกาดังกล่าวมีจุดสิ้นสุดอยู่ที่เวลา 00.00 น. หรือเที่ยงคืน ที่นับว่าเป็น “จุดหายนะ” โดยจะมีคณะกรรมการคอยพิจารณาและขยับเข็มนาฬิกา เมื่อเกิดเหตุการณ์ตึงเครียดขึ้น เช่น มีสงครามความขัดแย้ง หรืออะไรก็ตามที่ส่งผลต่อความเป็นอยู่ของเผ่าพันธุ์มนุษย์
อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่ : Bulletin of the Atomic Scientists