14 กุมภาพันธ์ เปิดประวัติ "วันวาเลนไทน์" จากความรักที่ไม่สมหวัง

โดย PPTV Online

เผยแพร่

เปิดตำนานเซนต์วาเลนไทน์ ผู้เสียสละยอมถูกประหารชีวิตให้ความรักยังดำรงอยู่ต่อไป ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ จนวิวัฒนาการกลายมาเป็นวันแห่งความรักที่คู่รักมอบของขวัญให้แก่กัน

“วันวาเลนไทน์” เป็นเทศกาลแห่งความรัก ที่คู่รักมักจะมอบของขวัญ พาไปเที่ยว หรือชวนไปดินเนอร์มื้อด่ำด้วยกัน ซึ่งจะตรงกับวันที่ 14 กุมภาพพันธ์ของทุกปี

ดูแล้วเป็นวันที่หนุ่มสาวหลายคนต่างรอคอย แต่เชื่อหรือไม่ว่าวันที่เรามอบความรักให้แก่กัน เป็นวันที่นักบวชคนหนึ่งยอมเสียสละชีวิตเพื่อให้ความรักยังดำรงอยู่ตลอดไป และมีวันแห่งความรักอย่างวันวาเลนไทน์ขึ้นมา

คอนเทนต์แนะนำ
รวม 10 ของขวัญ "วันวาเลนไทน์ 2567" ให้แล้วการันตีความอบอุ่นใจ
รวมเพลงรักรับ วาเลนไทน์ 2566 ยกมาทั้ง Playlist อัปเดตล่าสุด!
7 Trick ต้องจด "ดินเนอร์" เพิ่มหวานมัดใจแฟน รับวาเลนไทน์ 2567

เซนต์วาเลนไทน์

ตำนานเซนต์วาเลนไทน์

ว่ากันว่า เทศกาลวันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) เริ่มมีขึ้นเมื่อครั้งที่ยุคจักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ขณะนั้น วันที่ 14 กุมภาพันธ์ในทุกๆ ปี ถูกจัดให้เป็นวันหยุด เพื่อเป็นเกียรติแก่เทพเจ้าจูโนผู้เป็นจักรพรรดินีแห่งเทพเจ้าโรมัน อีกทั้งยังทรงเป็นเทพเจ้าแห่งอิสตรีเพศ โดยกำหนดให้วันที่ 15 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นอภิเษกสมรสของพระองค์เป็นวันเริ่มต้นเทศกาลการเฉลิมฉลองแห่งลูกเพอร์คาร์เลีย เป็นวันเริ่มต้นงานเลี้ยงของเด็กหนุ่มและเด็กสาวในยุคนั้น

ต่อมาในรัชสมัยของ จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 (Emperor Claudius II) แห่งกรุงโรม พระองค์ทรงเป็นกษัตริย์ที่นิยมในการทำศึกสงคราม ซึ่งพระองค์ได้ตระหนักว่าเหตุที่ชายหนุ่มส่วนมากไม่ประสงค์จะเข้าร่วมกองทัพ เนื่องมากจากว่าชายหนุ่มเหล่านั้นไม่อยากพลัดพรากจากคนที่รักและครอบครัวไป จักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 จึงทรงมีคำสั่งห้ามไม่ให้จัดพิธีหมั้นและแต่งงานขึ้นในกรุงโรมโดยเด็ดขาด

แต่ได้มีนักบุญรูปหนึ่งนามว่า “วาเลนตินัส” เขามีเลื่อมใสศรัทธาต่อพระคริสต์เป็นอย่างมาก จนการได้รับการยกย่องเป็น “เซนต์ วาเลนไทน์” ในภายหลัง ที่มีความปรารถนาดีอยากให้คู่รักได้ผ่านเข้าสู่ประตูวิวาห์ในฝัน จึงได้ร่วมมือกับ “เซนต์ มาริอัส” จัดพิธีแต่งงานแบบลับๆ ให้ชาวคริสต์หลายคู่ จนเรื่องไปถึงหูของจักรพรรดิคลอดิอัสที่ 2 ทำให้เขาต้องถูกจับคุมขัง ถูกจองจำเป็นนักโทษ

แต่ระหว่างนั้นเขาก็ยังส่งคำอวยพรวาเลนไทน์ออกไปอย่างต่อเนื่อง และได้ตกหลุมรักกับหญิงคนหนึ่งที่เป็นลูกสาวของผู้คุมเรือนจำที่ชื่อว่า “จูเลีย” โดยในคืนก่อนประหารด้วยการตัดศีรษะ เธอได้มาเยี่ยมวาเลนไทน์ ซึ่งเขาได้ส่งจดหมายฉบับสุดท้ายถึง “จูเลีย” ลงท้ายว่า “From Valentine” 

ภายหลังจากที่วาเลนไทน์ถูกประหารชีวิตไป ศพของเขาได้ถูกเก็บเอาไว้ที่โบสถ์พราซีเดส (Praxedes) ในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 270 ณ กรุงโรม โดยจูเลียได้ปลูกต้นอามันต์ หรือต้นอัลมอนด์สีชมพูไว้ใกล้ๆ กับหลุมของวาเลนไทน์ผู้เป็นที่รักของเธอ ทำให้ทุกวันนี้ต้นอามันต์สีชมพูได้กลายเป็นตัวแทนแห่งความรักนิรันดรและมิตรภาพอันสวยงามนับแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ตามเพื่อเป็นการระลึกถึงชีวิตและความรักที่มีต่อเพื่อนมนุษย์อย่างแท้จริงของ “เซนต์วาเลนไทน์” พระสันตปาปาเกลาซิอุสได้กำหนดให้วันที่ 14 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันที่เซนต์วาเลนไทน์ถูกประหารชีวิตเป็น “วันนักบุญวาเลนไทน์” ซึ่งถือเป็นวันแห่งความรักนั่นเอง

เจฟฟรีย์ ซอเซอร์

การเฉลิมฉลองในวันวาเลนไทน์

ตำนานของเซนต์วาเลนไทน์ถือเป็นความรักที่ต้องเสียสละ แต่เรื่องนี้เข้ามาเกี่ยวข้องกับความรักในแบบโรแมนติกได้อย่างไรนั้น พบว่าเกิดขึ้นครั้งแรกในแวดวงสังคมของ “เจฟฟรีย์ ซอเซอร์” (Geoffrey Chaucer) ซึ่งเป็นนักเขียนที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นบิดาแห่งกวีนิพนธ์อังกฤษ ในช่วงกลางยุคสมัยกลาง จนเกิดประเพณีรักเทิดทูนขึ้น (Courtly love) และได้วิวัฒนาการมาถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 วันวาเลนไทน์กลางเป็นโอกาสเหมาะที่คู่รักจะได้แสดงความรักให้แก่กันด้วยการมอบดอกไม้ ขนม ลูกกวาด ช็อกโกแลต และส่งการ์ดอวยพรให้แก่กันสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน

ของขวัญวันวาเลนไทน์

ส่วนใหญ่แล้วของขวัญที่คู่รักมักจะมอบให้แก่กันในวันสำคัญนี้ ได้แก่

ดอกกุหลาบ

เป็นสัญลักษณ์หรือตัวแทนแห่งความรัก ที่สะท้อนความหมายโดนนัยผ่านสีต่างๆ ของดอกกุหลาบที่แตกต่างกันไป อาจมอบเป็นช่อ หรือจะมอบเป็นดอกเดี่ยวๆ ก็ได้

คอนเทนต์แนะนำ
ไอเดียช่อดอกไม้ วาเลนไทน์ 2566 ส่งรักถึงคุณคนโปรด เปิดโหมดหวานเต็มพิกัด
เปิดความหมาย "ดอกกุหลาบ" และ 40 ความหมายดอกไม้รับ "วันวาเลนไทน์"
ทำไมต้องให้ช็อกโกแลต วันวาเลนไทน์ 2566 เปิดที่มา พร้อมประโยชน์ที่คาดไม่ถึง!

การ์ดวาเลนไทน์

การส่งมอบความปรารถนาดี ความห่วงใย และความเอาใจใส่ผ่านตัวหนังสือไปยังคนที่เรารัก ซึ่งไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นคนรักอย่างเดียว แต่ยังหมายถึง คนในครอบครัว เพื่อนฝูง หรือพี่น้องก็ได้

ช็อกโกแลต

ในยุคที่นักบุญวาเลนไทน์เสียชีวิตนั้น การให้ช็อกโกแลตเป็นของหายาก จึงเปรียบเสมือนของที่มีค่าที่คนรักจะมอบให้กัน อีกทั้งช็อกโกแลตยังสามารถสื่อความหมายถึงชีวิตรักของเราได้อย่างชัดเจน เพราะด้วยรสชาติของมันที่มีตั้งแต่ขม ไปจนถึงรสหวาน เปรียบได้กับการดำเนินชีวิตคู่ที่บางครั้งก็มีทุกข์ มีสุขบ้าง หรือมีทั้งขื่นขมและมีหวานปะปนกันไป

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : โรงเรียนนางรองพิทยาคม และ มิวเซียมสยาม

 

Bottom-PL-24 Bottom-PL-24

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

PPTVHD36

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ