ทุกวันนี้คนเราเคยได้ยินเรื่องเล่าเกี่ยวกับผีมาไม่มากก็น้อย เป็นเรื่องราวที่มีทั้งความน่ากลัวและความน่าตื่นเต้น บางคนก็อาจจะเคยเจอหรือมีประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องผีมาบ้างแล้ว
ครั้งนี้เพื่อนๆลองมาดูเรื่องผีในแง่มุมทางวิทยาศาสตร์กันบ้างดีกว่า
วิทยาศาสตร์สามารถบอกอะไรเราได้หลายอย่าง และหลายแง่มุม แต่ในมุมมองของผีหรือที่ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่า สิ่งที่มองไม่เห็น ส่วนมากจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการค้นหาสัญญาณที่บ่งบอกว่ามีผีอยู่ตำแหน่งนั้นๆจริงหรือไม่ โดยแบ่งออกเป็น 3 หัวข้อดังต่อไปนี้
1. สนามแม่เหล็กไฟฟ้า การวิจัยแสดงให้เห็นว่าการกระตุ้นทางไฟฟ้าในส่วนต่างๆของสมอง มีผลอย่างมากต่อการรับรู้ของเรา เรื่องของการทดลองเห็นภาพหลอนรวมถึงความรู้สึกของ "การปรากฎตัว" หรือแม้แต่ประสบการณ์เฉียดตาย นักวิจัยในเรื่องความลี้ลับค้นพบว่า สถานที่ที่ถูกผีสิงที่พบเห็นบางแห่ง ทำให้การอ่านข้อมูลทางแม่เหล็กไฟฟ้าแปลกไป ถ้าค่าของแม่เหล็กไฟฟ้าสูงขึ้นแสดงว่ามันสามารถจับพลังงานบางอย่างได้ ผีหรือวิญญาณจะมีพลังบางอย่างที่สามารถดึงดูดแม่เหล็กได้
2. คลื่นเสียง เป็นที่รู้จักกันว่าเป็นเสียงความถี่ที่ต่ำและมีขีดจำกัด การได้ยินของมนุษย์ อยู่ที่ประมาณ 20 เฮริตซ์ โดยมีอินฟาเรดต่ำกว่าเกณฑ์ดังกล่าว ดังนั้นผีจะมีเสียงที่ต่ำและแหลมคมมาก ที่คนธรรมดาจะไม่ได้ยิน แต่คลื่นเสียงนี้สามารถจับเสียงมันได้ แม้ว่าเราจะไม่ได้ยินเสียงดังกล่าวก็ตาม แต่ก็มีหลักฐานว่าคลื่นเสียงนั้นอาจส่งผลร้ายต่อมนุษย์ ผลกระทบของอินฟาเรดถูกค้นพบโดยวิศวกรชาวอังกฤษ
3. สารพิษ สำหรับคน การสัมผัสกับสารพิษมีคำอธิบายที่เป็นไปได้ ว่าจะทำให้เกิดการเห็นผี พิษคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดความ 'หลอน' และมีปรากฏการณ์แปลกๆ ที่อธิบายไม่ได้ เช่น วัตถุที่เคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง และเสียงแปลกๆ ที่ตามมา
เรื่องของผีหรือวิญญาณนั้นเป็นเรื่องยากที่จะอธิบาย และยากที่เชื่อว่ามีอยู่จริง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ไม่ควรไปลบหลู่ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยเช่นกันนะเพื่อนๆ
เรื่องราวที่น่าสนใจเหล่านี้ยังมีอีกมาก ค้นพบและติดตามร่วมไปกับเราในรายการชั่วโมง Discovery ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-09.00 น. ทางช่อง PPTV HD 36