มาตามข่าวลือ! แอปเปิลเปิดตัวเรือธงใหม่ iPhone 14 และผลิตภัณฑ์อีกคับคั่ง


โดย PPTV Online

เผยแพร่




รวมผลิตภัณฑ์ใหม่งาน Apple Event 2022 โดย iPhone 14 - AirPods - Apple Watch มาครบตามข่าวลือ

หลังจากตั้งตารอคอยท่ามกลางข่าวลือต่าง ๆ นานากันมาเป็นเวลาพอสมควร ในที่สุดเราก็ได้เห็นโฉมหน้าผลิตภัณฑ์ใหม่ของ “แอปเปิล (Apple)” ประจำเดือน ก.ย. 2022 จากงาน Apple Event 2022 ที่แม้จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่เพียง 3 ไลน์อัปหลัก แต่ก็อัดแน่นจนใครได้เห็นก็ต้องจุกไปตาม ๆ กันกับคุณภาพ

ซึ่งบรรดาผลิตภัณฑ์ที่ประกาศออกมาในรอบนี้ นับว่าสำเนาถูกต้องกับข่าวลือที่ออกมาอย่างถาโถมก่อนหน้านี้ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกัน

ไทยขยับเทียร์ 1 !! Apple ประกาศวางขาย iPhone 14 เริ่ม 16 ก.ย.นี้

7 ก.ย. มาแน่! แอปเปิลเตรียมเปิดตัว iPhone 14

ตั้งตารอ! ผลิตภัณฑ์ “แอปเปิล” ที่คุณจะได้เห็นภายใน 1 ปีข้างหน้า

Apple Watch Series 8 ยกระดับการดูแลสุขภาพและความปลอดภัย

แอปเปิลเสิร์ฟออร์เดิร์ฟด้วย Apple Watch Series 8” เป็น Apple Watch รุ่นใหม่ที่มีทุกคุณสมบัติที่รุ่นก่อน ๆ เคยมี แต่บวกด้วยเทคโนโลยีและฟังก์ชันใหม่ ๆ ที่มุ่งยกระดับความปลอดภัยและการดูแลสุขภาพของผู้ใช้งาน

จอใหญ่ขึ้น สว่างมากขึ้น และหน้าปัดใหม่ เพิ่มเซนเซอร์วัดอุณหภูมิ (Temperature Sensor) ที่จะคอยเช็กร่างกายของผู้สวมทุก 5 วินาทีแม้แต่ในตอนนอน นอกจากนี้ ยังเพิ่มคุณสมบัติเอาใจคุณผู้หญิง ด้วยฟีเจอร์ติดตามรอบประจำเดือนพร้อมการคาดคะเนช่วงไข่ตก

ฟีเจอร์สำคัญของ Apple Watch รุ่นใหม่นี้คือ “การตรวจจับการชน (Crash Detection)” จะตรวจจับอุบัติเหตุรถชนด้วยเซนเซอร์ Gyroscope 3 แกน, Accelerometer, พร้อมระบบ GPS ความแม่นยำสูงช่วยให้ผู้ที่ประสบอุบัติร้องขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่กดปุ่ม SOS ที่จะเด้งขึ้นมาหากมันตรวจพบว่าผู้สวมใส่เกิดอุบัติเหตุ

แบตเตอรี่ของ Apple Watch Series 8 ได้รับการพัฒนาให้อึด ถึก ทน มากขึ้น โดยการชาร์จหนึ่งครั้งสามารถอยู่ได้ถึง 18 ชั่วโมง และหากเปิดใช้ Low Power Mode จะอยู่ได้นานถึง 36 ชั่วโมง

Apple Watch Series 8 มาใน 4 สี ได้แก่ มิดไนต์ สตาร์ไลต์ ซิลเวอร์ และโปรดักต์เรด ราคาเปิดตัวในไทยประกาศเริ่มต้นที่ 15,900 บาท นอกจากนี้ยังมีสายนาฬิกาที่คอลแลบกับแบรนด์ดังอย่างแอร์เมส (Hermes) ด้วย

สำหรับใครที่อาจจะสู้ราคาของ Apple Watch Series 8 ไม่ไหวแต่อย่างได้ฟีเจอร์ดี ๆ เหล่านี้ แอปเปิลก็จัด Apple Watch SE” รุ่นใหม่ให้ โดยสามารถใช้งานฟีเจอร์หลักของ Apple Watch Series 8 ได้อย่างครบถ้วน ในราคาเริ่มต้น 9,900 บาทเท่านั้น

Apple Watch Ultra มิติใหม่ของนาฬิกาเพื่อการผจญภัยและกิจกรรมเอ็กซ์ตรีม

แต่ไฮไลต์เด็ดของไลน์อัป Apple Watch อยู่ที่ Apple Watch Ultra” ซึ่งเป็นครั้งแรกที่แอปเปิลปิดตัว Apple Watch รุ่นนี้

Apple Watch Ultra ใช้วัสดุเกรดอุตสาหกรรมอวกาศ หน้าปัดกว้าง 49 มม. กันน้ำมาตรฐาน WR100 จอสว่างแบบพิเศษ และยังเพิ่มปุ่ม Action Button ที่จะเป็นเหมือน “คีย์ลัด” ให้คุณใช้งานได้อย่างสะดวกรวดเร็วทันใจ

นอกจากนี้ ยังรองรับการผจญภัยเอ็กซ์ตรีมสุดขั้ว ด้วยระบบ GPS L1+L5 รับพิกัดดาวเทียมได้อย่างแม่นยำที่สุด หาตัวผู้สวมใส่เจอได้ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก

แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 36 ชั่วโมง และหากเป็นฌหมดประหยัดพลังงานจะอยู่ได้สูงสุดถึง 60 ชั่วโมง ยังมีความทนทานสูง ทนน้ำได้ลึก 100 เมตร หรือหากไปวิ่งมาราธอน ปีนเขา ปั่นจักรยานทางไกล ลุยหิมะ ฝ่าทะเลทราย ก็สามารถทำงานได้

หากอยู่ในสถานการณ์วิกฤต เช่น ติดอยู่บนภูเขาหิมะ ก็มีลำโพงและไมค์คุณภาพสูง พูดคุยสื่อสารได้ในทุกสถานการณ์ สายนาฬิกายังมีถึง 3 รูปแบบ คือ Alpine, Trail และ Ocean ซึ่งเหมาะกับแต่ละสถานการณ์การผจญภัยแตกต่างกันออกไป

ไม่เพียงเท่านั้น Apple Watch Ultra ยังมีระบบเข็มทิศที่จะช่วยให้คุณสามารถกลับไปยังพื้นที่ปลอดภัยหรือค่ายพักที่ปักหมุดไว้ได้อย่างแม่นยำในกรณีที่หลงทางด้วยระบบ Backtrack

ด้วยคุณสมบัติที่บุกน้ำลุยไฟก็ไม่หวั่นแบบนี้ Apple Watch Ultra เปิดตัวในประเทศไทยด้วยราคา 31,900 บาท

AirPods Pro เจนใหม่ ประสบการณ์เสียงเหนือระดับ

แอปเปิลยังคงไม่เสิร์ฟอาหารจานหลัก แต่นำ AirPods Pro (Gen 2)” มายั่วน้ำลายอีกหนึ่งคำรบ ยกระดับคุณภาพเสียงด้วยชิปตัวใหม่ H2 ใหม่ให้ได้ยินเสียงที่คมชัดยิ่งขึ้น

AirPods Pro เจนใหม่มาพร้อม Spatial Audio ให้ได้ยินเสียงเหมือนอยู่บนเวทีกับวงดนตรี และยังมี Personalized Spatial Audio ปรับให้เข้ากับหูแต่ละคนได้

ในส่วนของระบบตัดเสียงรบกวน (Active Noise Cancellation) ก็ได้รับการพัฒนาให้สามารถตัดเสียงรบกวนได้มากกว่าเดิม 2 เท่า รวมถึงมีคุณสมบัติ Adaptive Transparency ปรับตามเสียงสภาพแวดล้อมภายนอกได้แบบเรียลไทม์

เพิ่ม Touch Control สามารถใช้นิ้วสไลด์ก้านหูฟัง เพื่อปรับระดับเสียงได้ จุกหูฟังซิลิโคนที่ยืดหยุ่นมีมาให้ 4 ขนาด เพื่อให้คุณได้เลือกขนาดที่เหมาะกับหูของคุณเอง

แบตเตอรี่อยู่ได้นานถึง 6 ชม. เพิ่มขึ้นจากเดิม 33% หากชาร์จรวมกับเคสจะอยู่ได้นาน 30 ชม. เคสชาร์จ MagSafe ที่ออกแบบมาใหม่ มาพร้อมชิป U1 ที่มีคุณสมบัติตำแหน่งที่ตั้งจริง ซึ่งจะช่วยคุณระบุตำแหน่งของเคสและตามหาผ่าน Find My ได้ และถ้าคุณอยู่ใกล้ ๆ แต่เคสถูกเก็บซ่อนไว้ ก็สามารถเล่นเสียงจากลำโพงในตัวได้

AirPods Pro (Gen 2) นี้ เปิดตัวในประเทศไทยที่ราคา 8,990 บาท

iPhone 14 เรือธงใหม่ กรีธาทัพถล่มตลาดสมาร์ตโฟนด้วยสเปกเทพ

มาถึงอาหารจานหลักที่ทุกคนรอคอยซึ่งแอปเปิลเก็บไว้เป็นของดีสุดท้ายของงาน Apple Event 2022 นั่นคือ iPhone 14” และ iPhone 14 Plus” มี 5 สีให้เลือก ได้แก่ มิดไนต์ สตาร์ไลต์ ฟ้าโทนใหม่ ม่วงโทนใหม่ และโปรดักต์เรด มาพร้อมขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้วและ 6.7 นิ้ว ตามลำดับ

ทั้งสองแบบใช้ชิป A15 เช่นเดียวกับ iPhone 13 หน้าจอ OLED Super Retina XDR กล้องหลัง 2 ตัวกล้องหลัก 12 ล้านพิเซล เซ็นเซอร์ใหญ่ขึ้น จับภาพเคลื่อนไหวดีขึ้น ถ่ายภาพแสงน้อยได้ดีขึ้น 49% แบตเตอรี่ยังอึดในระดับ All-Day Battery Life

ส่วนกล้องหน้า มี TrueDepth Camera ถ่ายภาพแสงน้อยดีขึ้น 38% โฟกัสได้เร็ว แม้แสงจะน้อย ยังมี Deep fusion และ Photonic Engine ที่ช่วยให้ได้ภาพที่สีสวยและสว่างขึ้น เทียบกับ iPhone 13 นับว่ากล้องดีกว่าอย่างน้อย 2 เท่า

สำหรับการถ่ายวิดีโอเพิ่มระบบกันสั่นขณะถ่ายวิดีโอ Action Mode ให้ถือถ่ายมือเปล่าได้ดีขึ้น ทำให้ภาพลื่นแม้ถ่ายขณะเคลื่อนไหว

นอกจากนี้ iPhone 14 และ 14 Plus ยังรองรับ eSim หรือซิมดิจิทัล ที่ไม่จำเป็นต้องใส่ตัวซิมจริง ๆ ลงในโทรศัพท์มือถืออีกแล้ว

iPhone 14 และ 14 Plus ยังมาพร้อมระบบ Crash Detection แบบเดียวกับใน Apple Watch รวมถึง Emergency SOS Satellite ให้คุณสามารถสื่อสารหรือขอความช่วยเหลือในพื้นที่ที่ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ได้ ด้วยการเชื่อมต่อกับดาวเทียมนอกโลกแทน ซึ่งระบบนี้จะมีในสหรัฐฯ และแคนาดาก่อน

iPhone 14 ราคาเปิดตัวในประเทศไทยอยู่ที่ 32,900 บาท ซึ่งทางแอปเปิลบอกว่าใกล้เคียงกับ iPhone 13 แต่สเปกดีขึ้นมาก สั่งซื้อล่วงหน้า 9 ก.ย. เริ่มตั้งแต่เวลา 19‍.‍00 น. iPhone 14 เริ่มวางจำหน่าย 16 ก.ย. และ iPhone 14 Plus เริ่มวางจำหน่าย 7 ต.ค.

ร้อนแรงยิ่งขึ้นกับ iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max

และไฮไลต์เด็ดของไลน์อัป iPhone นั่นคือ การเปิดตัว iPhone 14 Pro” และ iPhone 14 Pro Max” ที่มาใน 4 สี คือ ดำ ขาว ทอง และม่วง กับจอขนาด 6.1 นิ้วและ 6.7 นิ้วตามลำดับ

บริเวณหน้าจอเปลี่ยนจากรอยบาก (Notch) มาเป็น “Dymamic Island” ซึ่งมีลักษณะเป็นอินเทอร์เฟซขนาดเล็ก สามารถแจ้งเตือนแอปพลิเคชันต่าง ๆ รวมถึงสลับการใช้งานได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนหน้าแอปฯ

หน้าจอปรับปรุงให้สว่างขึ้นรองรับฟังก์ชันพิเศษ “จอแสดงผลตลอดเวลา (Always-On Display)” โดยจะสามารถแสดงวิดเจ็ตที่ให้ข้อมูลสภาพอากาศ ปฏิทิน หุ้น กิจกรรม และข้อมูลอื่น ๆ ในขณะที่หน้าจอยังคงมีความสว่างและเฟรมเรตต่ำ

iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max ใช้ชิปใหม่ A16 Bionic ซึ่งแอปเปิลเคลมว่า เป็นชิปที่เร็วที่สุดในตลาดสมาร์ตโฟนปัจจุบัน มีศักยภาพทำงานเร็วกว่าสมาร์ตโฟนของคู่แข่ง 40% ใช้พลังงานน้อยลง 20% เทียบกับชิป A15 และใช้พลังงานเพียง 1 ใน 3 ของคู่แข่งรุ่นที่ดีที่สุด

ไอโฟนรุ่นเทพนี้มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว กล้องหลักความละเอียด 48 ล้านพิกเซล ใช้เซนเซอร์ใหญ่ขึ้น 65% พร้อมเลนส์เทเล 12 ล้านพิกเซล ถ่ายภาพแสงน้อยได้ดีกว่า iPhone 13 Pro ถึง 2 เท่า กล้องยังสามารถซูมได้หลายระยะขึ้นด้วย ความเทพของกล้องนี้ทำให้ภาพที่ถ่ายออกมามีความละเอียดมาก แม้ขยายภาพภาพก็ยังไม่แตก

ส่วนการถ่ายวิดีโอก็มี Action Mode เช่นเดียวกับ iPhone 14 รุ่นปกติ สามารถถ่ายวิดีโอความละเอียก 4K ได้ด้วย แบตเตอรี่ยังอึดในระดับ All-Day Battery Life เช่นกัน

ด้วยคุณสมบัติทั้งหมดทั้งมวล ทำให้แอเปิลถึงกับนิยามว่า iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max เป็นไอโฟนที่ดีที่สุด สนนราคาเปิดตัวในไทยอยู่ที่ 41,900 บาท สั่งซื้อล่วงหน้า 9 ก.ย. เริ่มตั้งแต่เวลา 19‍.‍00 น. และเริ่มวางจำหน่าย 16 ก.ย.

และทั้งหมดนี้คือผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของแอปเปิลที่เปิดตัวเมื่อคืนที่ผ่านมา เรียกได้ว่าอัดสเปกใส่ลูกค้ากันแบบสุด ๆ แต่ยังมีสินค้าอื่น ๆ ที่แอปเปิลยังคงอุบไว้รอเปิดตัวในช่วงปลายปีนี้ โดยอย่างน้อย ๆ ก็น่าจะมี iPad ที่หลายคนคงได้เห็นข่าวลือหลุดออกมากันบ้างแต่ไม่ได้ปรากฏตัวในงานนี้ สาวกแอปเปิลก็ขอให้ติดตามกันต่อไป

แอปเปิลเตรียมผลิต Apple Watch และ MacBook ในเวียดนาม

แอปเปิลขอซัพพลายเออร์ในไต้หวัน ระบุแหล่งผลิตว่า “Made in China”

TOP ไอที
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ