วิเคราะห์บอล !! พรีเมียร์ลีก "แดงเดือด" แมนยู พบ ลิเวอร์พูล 13 พ.ค.64


โดย PPTV Online

เผยแพร่




วิเคราะห์บอล พรีเมียร์ลีก "แดงเดือด" แมนยู พบ ลิเวอร์พูล

ปรีวิวพรีเมียร์ลีก อังกฤษ “แดงเดือด”

พฤหัสบดีที่ 13 พฤษภาคม 2564

(2) แมนฯ ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล (6)

สนาม : โอลด์ แทรฟฟอร์ด เวลาคิกออฟ :  02.15 น.

ผู้ตัดสิน :  แอนโธนี่ เทย์เลอร์

 

ผลงานการพบกันในฤดูกาลนี้

24 ม.ค.2564 :  แมนฯ ยูไนเต็ด 3-2 ลิเวอร์พูล (เอฟเอ คัพ รอบ 32 ทีมสุดท้าย)

ประตู : 0-1 โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ น.18, 1-1 เมสัน กรีนวู้ด น.26,2-1 มาร์คัส แรชฟอร์ด น.48 2-2 โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ น.58,3-2 บรูโน่ แฟร์นันด์ส น.78

 

17 ม.ค.2564 : ลิเวอร์พูล 0-0 แมนฯ ยูไนเต็ด  (พรีเมียร์ลีก)

 

วิเคราะห์บอลพรีเมียร์ลีก "ศึกแดงเดือด" ลิเวอร์พูล พบ แมนยู วันที่ 17 ม.ค. 64

ผลบอลสดวันนี้ ! พรีเมียร์ลีก ศึกแดงเดือด ลิเวอร์พูล พบ แมนยู 17 ม.ค. 64

แมนฯ ยูไนเต็ด

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

11 พ.ค.2564       แพ้ เลสเตอร์              1-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

9 พ.ค.2564         ชนะ แอสตัน วิลล่า      3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

29 เม.ย.2564        ชนะ โรม่า                6-2 (เหย้า) ยูโรป้า ลีก

25 เม.ย.2564        เสมอ ลีดส์               0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

18 เม.ย.2564        ชนะ เบิร์นลี่ย์            3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

 

 สภาพทีมแมนฯ ยูไนเต็ด

กุนซือ โอเล่ กุนนาร์ โซลชา แม้จะพาทีมแพ้ เลสเตอร์ 1-2 เมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา แต่ก็ได้ไปเล่นโควต้าไปเล่นยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ฤดูกาลหน้าแน่นอนแล้ว เกมนี้จะมีการเปลี่ยนผู้เล่นกลับมาใช้ตัวจริงทั้งหมด หลังจากโรเตชั่นถึง 10 ตำแหน่งในเกมแพ้ “จิ้งจอกสยาม” โดยยังคงไม่มี แฮร์รี่ แม็คไกวร์ ปราการหลังกัปตันทีมที่เจ็บจากเกมชนะ แอสตัน วิลล่า และอาจต้องพักยาวถึง 1 เดือน ตัวหลักๆ อย่าง ดีน เฮนเดอร์สัน, อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ, ลุค ชอว์,สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ปอล ป็อกบา และ มาร์คัส แรชฟอร์ด พร้อมลงสนามทั้งหมด ส่วน แดเนียล เจมส์ ยังคงเจ็บเช่นเดียวกับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ศูนย์หน้าที่บาดเจ็บจากการไปเล่นให้ทีมชาติฝรั่งเศส และน่ากลับมาไม่ได้แล้วในฤดูกาลนี้ รวมถึง ฟิล โจนส์ ที่เดี้ยงจนหลุดจากทีมไปเรียบร้อย

 

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดีน เฮนเดอร์สัน ; อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดเลิฟ,เอริค ไบยี่, ลุค ชอว์ ; สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, เฟร็ด ; เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, ปอล ป็อกบา ; มาร์คัส แรชฟอร์ด

ลิเวอร์พูล

ผลงาน 5 นัดหลังสุด

8 พ.ค.2564       ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน                    2-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

24 เม.ย.2564        เสมอ นิวคาสเซิ่ล                  1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

19 เม.ย.2564        เสมอ ลีดส์                          1-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก

14 เม.ย.2564        เสมอ เรอัล มาดริด                0-0 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก

10 เม.ย.2564        ชนะ แอสตัน วิลล่า                2-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก

สภาพทีมลิเวอร์พูล

"หงส์แดง"เกมล่าสุดแม้จะเปิดแอนฟิลด์ ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 2-0  แต่โอกาสที่จะลุ้นตั๋วไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในทางปฏิบัติเรียกว่าหมดไปแล้ว เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป๋ จะพลาดใช้งาน โอซาน คาบัค เซ็นเตอร์ฮาล์ฟดาวรุ่งทีมชาติตุรกีที่เจ็บ โดยต้องดูว่าเกมนี้กุนซือชาวเยอรมัน จะเลือกใช้ นาธาเนียล ฟิลลิปส์ ยืนจับคู่กับ รีช วิลเลี่ยมส์ เหมือนในเกมกับ เซาธ์แฮมป์ตัน ต่อไป หรือจะใช้ประสบการณ์ของ ฟาบินโญ่ ถอยมายืนประคองแทน ด้าน เจมส์ มิลเนอร์ ดาวเตะจอมเก๋าสารพัดตำแหน่งยังไม่ฟิตเช่นกัน ในรายของ นาบี เกอิต้า ดันมาเจ็บซ้ำ แนวรุกต้องดูว่า โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ จะได้กลับมาเป็นตัวจริงหรือไม่ หลังเกมที่พบนักบุญถูก ดีโอโก้ โชต้า เบียดแย่งตัวจริง ขณะที่ผู้เล่นในลิสต์บาดเจ็บยังเป็นชื่อเดิมๆ คือ โจ โกเมซ ,เฟอร์กิล ฟาน ไดค์, จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, โจเอล มาติป,ควีวิน เคลเลเฮอร์ และ ดิว็อค โอริกี้

 

ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์ ; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, นาธาเนียล ฟิลลิปส์, รีช วิลเลี่ยมส์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; ติอาโก้ อัลคันตารา, ฟาบินโญ,จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม ; โมฮัมเหม็ด ซาลาห์,โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่, ซาดิโอ มาเน่

 

เกร็ดที่น่าสนใจก่อนเกม "แดงเดือด"

-เกมนี้ถือเป็นการพบกันนัดที่ 235 ในทุกรายการ ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ ลิเวอร์พูล สถิติการพบกันที่ผ่านมา "ปิศาจแดง" ชนะ 89 นัด "หงส์แดง" ชนะ 77 นัด และจบลงด้วยการเสมอกัน 68 นัด

-การเจอกันของทั้งคู่นับตั้งแต่เปลี่ยนมาเป็นพรีเมียร์ลีก (ปี 1992) พบกันมาแล้วทั้งหมด 57 นัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ 28 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 15 นัด และจบด้วยผลเสมอ 14 นัด

-นัดนี้ถือเป็นการพบกันในลีกครั้งที่ 176 ซึ่งผลการแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมที่พบมากที่สุดคือลงเอยด้วยผลเสมอ  0-0 (ซึ่งเกิดขึ้นถึง 20 ครั้ง)

-การพบกันของทั้งคู่ในลีก 9 เกมหลังมีถึง 6 เกมที่ลงเอยด้วยผลเสมอ และ ลิเวอร์พูล แพ้ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพียงนัดเดียวเท่านั้น

-แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะที่ โอลด์แทรฟฟอร์ด เมื่อเดือนมกราคม ในเกม เอฟเอ คัพ ถือเป็นชัยชนะเหนือ ลิเวอร์พูล เป็นครั้งที่ 2 ในการพบกัน 12 นัดหลังในทุกรายการ

- แมนฯ ยูไนเต็ด ผลงานที่ผ่านมาแพ้เพียง 2 นัด จาก 24 นัดหลังในทุกรายการ (ชนะ 14 เสมอ 8) ซึ่งเกมที่แพ้ 2 นัดคือการแพ้ให้ เลสเตอร์ ทั้ง 2 นัด คือเกมตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายเอฟเอ คัพ  และในเกมลีกนัดล่าสุด

-14 เกมที่ผ่านมาในทุกรายการ นับตั้งแต่ช่วงต้นเดือนมีนาคม แมนฯ ยูไนเต็ด ทำประตูได้ทุกนัด ยกเว้นเพียงในเกมพบกับ ลีดส์ เพียงเกมเดียวที่บุกไปเสมอ ลีดส์ 0-0

-แม้ 5 เกมหลังทุกรายการ ลิเวอร์พูล จะไม่แพ้ แต่ก็เป็นการเสมอถึง 3 เกม

- "เกมแดงเดือด" 15 นัดหลังสุดจากทุกรายการที่โอลด์ แทร็ฟฟอร์ดแมนฯ ยูไนเต็ด แพ้เพียงครั้งเดียว (ชนะ 10 เสมอ 4) และนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ปี 2014 ลิเวอร์พูล ไม่เคยบุกมาชนะได้ที่นี่ซึ่งถือเป็นการไม่ชนะยาวนาน 8 เกมเข้าให้แล้ว โดยครั้งล่าสุดที่ "หงส์แดง"บุกมาชนะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด คือในวันที่ 16 มีนาคม 2014 โดยครั้งนั้นบุกมาชนะ 3-0 (สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยิง 2 จุดโทษ+ หลุยส์ ซัวเรซ)

-ดีน เฮนเดอร์สัน เตรียมกลายเป็นผู้รักษาประตูชาวอังกฤษคนแรกที่ลงเฝ้าเสาเกมลีกให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด พบ ลิเวอร์พูล โดยประตูชาวอังกฤษคนหลังสุดที่เคยเฝ้าเสาคือ เลส ซีลีย์ ที่ลงทำหน้าที่ในปี 1991

-มาร์คัส แรชฟอร์ด ศูนย์หน้าของทีม "ปิศาจแดง" มีส่วนร่วมกับประตูโดยตรง 5 ลูกจาก 4 เกมหลังที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด ในการพบกับ ลิเวอร์พูล ทุกรายการ โดยทำได้ 4 ประตู กับ 1 แอสซิสต์

-โมฮัมเหม็ด ซาล่าห์ หากเกมนี้สามารถทำประตูได้ จะกลายเป็นแข้ง ลิเวอร์พูล คนแรก ที่ทำประตูในการบุกเยือนแมนฯ ยูไนเต็ด 2 เกม ในฤดูกาลเดียว โดยแข้งล่าสุดที่เคยทำไว้คือ แฮร์รี่ แชมเบอร์ส เมื่อ 100 ปีที่แล้ว

-โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ยิงได้เพียงประตูเดียวในการพบกับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 14 นัดก่อนหน้านี้ ขณะที่ ซาดิโอ มาเน่ ทำได้เพียงประตูเดียวจาก 11 นัดที่เจอกันใน "แดงเดือด"

-7 นัดที่ ฟาบินโญ่ ถอยจากมิดฟิลด์ลงไปยืนเป็นปราการหลังตัวกลาง ลิเวอร์พูล ไม่เคยชนะ เสมอ 3  แพ้ 4 นัด

- เจอร์เก้น คล็อปป์ กุนซือ ลิเวอร์พูล ต้องการคว้าชัยชนะที่ โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด เป็นครั้งแรก หลังจากก่อนหน้ามาเยือน 6 นัดไม่สามารถชนะได้ (เสมอ 4 แพ้ 2) ซึ่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ กุนซือชาวเยอรมัน ไม่สามารถพาทีมชนะได้เลยด้วยจำนวนนัดมากที่สุดนับตั้งแต่การเดินบนเส้นทางการเป็นผู้จัดการทีม

 

TOP ข่าวกีฬา
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ