กกท.ยืนยันแก้ไข พรบ.ควบคุมสารต้องห้ามกีฬา ให้เป็นตามสากล


โดย PPTV Online

เผยแพร่




การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)ออกมายืนยันในการแก้ไข พระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทาง เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการรับการประเมินผลการดำเนินการการต่อต้านการใช้สารต้องห้

จากกรณีที่องค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก หรือ วาด้า (World Anti-Doping Agency: WADA) ไม่ให้การรับรองประเทศไทย เนื่องจากยังไม่ได้ปฏิบัติตามธรรมนูญขององค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ในด้านของการบังคับใช้กฎหมาย นั้น

ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. เปิดเผยว่า จากการประสานงานอย่างใกล้ชิดกับองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก  เพื่อติดตามและรายงานความคืบหน้าในการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล

 

ไทย ไม่ปฏิบัติตาม วาด้า ถูกแบนจัดแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ

กกท.เร่งแก้ปัญหา “วาด้า” แบนไทย -ให้หน่วยตรวจโด๊ป เป็นอิสระจากรัฐ

ไทย ขอ 3 เดือนแก้ปัญหาโดน “วาด้า”แบน

โดยขณะนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) อยู่ระหว่างการรับการประเมินผลการดำเนินการการต่อต้านการใช้สารต้องห้าม ซึ่งแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 1. Audit Programs เป็นการตรวจสอบประเมินการปฏิบัติงานของสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา ซึ่ง กกท.ได้ดำเนินการแก้ไข และการปฏิบัติงานตามข้อเสนอแนะของ WADA และยังอยู่ในระหว่างการตรวจประเมินของ WADA ซึ่งจะสิ้นสุด ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2564 2. Continuous Monitoring Program ซึ่ง WADA ได้ให้การรับรองกฎ การต่อต้านการใช้สารต้องห้ามของสำนักงานควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา เรียบร้อยแล้ว และ 3.พระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 ซึ่ง WADA ได้ทำการตรวจสอบพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 พบว่า มีข้อกำหนด ในบางมาตราที่ยังไม่เป็นไปตามมาตรฐานสากล ตามที่ประมวลกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก ฉบับ ค.ศ. 2021 กำหนดไว้

นอกจากนี้ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการเสนอสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ. 2555 อย่างต่อเนื่อง ให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล สอดคล้องกับประมวลกฎการต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก โดยเสนอความเห็นทั้งหมดจากกับองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency: WADA) เพื่อให้คณะกรรมการกฤษฎีกา พิจารณาเพื่อให้เกิดผลในภาพรวม และสามารถนำไปใช้ได้อย่างเป็นมาตรฐานและได้รับการรับรองจากสากล ต่อไป

“เราได้พูดคุยกับทางวาด้าถึงความตั้งใจในการแก้ไขปัญหานี้ และจะไม่ยอมให้เวลาล่วงเลยไปถึง 1 ปี แต่จะเร่งแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด ซึ่งทางรัฐบาล และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี มีนโยบายชัดเจน และสั่งการให้เดินหน้าแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด เพราะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม และนักกีฬาไทยที่พวกเขาไม่ได้ทำผิดแม้แต่น้อย โดยก็อยากให้สื่อนำเสนอข้อเท็จจริงถูกต้อง เพราะจะเป็นภาพลักษณ์ของประเทศอีกด้วย” ผู้ว่าการ กกท.กล่าว

“แนวทางการแก้ไขปัญหาคือจะมีการออกกฏหมายพิเศษเป็นพระราชกำหนด และเข้าสู่กระบวนการปฏิรูปกฏหมาย โดยวางกรอบเวลาภายใน 3-4 เดือน ซึ่งได้มีการตั้งคณะทำงานพิเศษขึ้นมาที่มีตนเองคอยดูแลในการรายงานความคืบหน้าให้กับวาด้า คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี), และรัฐบาลได้รับทราบ รวมทั้งจะประชุมกับคณะกรรมการกฤษฎีกา สัปดาห์ละ 2 ครั้ง เพราะเป็นเรื่องเร่งด่วน ทั้งนี้ยืนยันว่าจะทำให้เร็วที่สุดเพื่อให้ไทยกลับมาเชิดหน้าชูตาในเวทีกีฬาโลก ส่วนการที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพกีฬาเอเชี่ยนอินดอร์ แอนด์ มาร์เชียลอาร์ตเกมส์ในปีหน้าจะไม่มีผลกระทบ เพราะเราจะแก้ไขปัญหาเสร็จก่อน“

“เราได้มีการเก็บข้อมูล ยกร่างกฏหมายส่งให้คณะกรรมการกฤษฎีกา ก่อนร่างกฏหมายส่งให้วาด้าตรวจสอบให้ถูกต้องตามมาตรฐานสากล เพื่อต้องการปลดล็อกให้เร็วที่สุด ถ้าเสร็จสิ้นแล้วเราสามารถจัดกีฬานานาชาติได้เลย แต่เรื่องกรรมสหพันธ์กีฬา และใช้ธงชาติคงต้องพูดคุกับวาด้าอีกครั้ง เพราะตามกำหนดเราต้องโดนลงโทษ 1 ปี นับตั้งแต่วันที่ 8 ตุลาคม ส่วนการแยกออกเป็นองกรณ์อิสระนั้น ยอมรับว่าจะส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของ กกท. ซึ่งเราก็ขอเวลากับวาด้าในการจัดการเรื่องนี้ที่จะต้องมีการจัดตั้งองค์กรอิสระขึ้นมาใหม่ และก็ดูในเรื่องบุคคลากร และเงินสนับสนุนต่อไป”

ด้านนายนพดล เภรีฤกษ์ โฆษกสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เปิดเผยว่า กรณีการแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ.2555 ขณะนี้ร่างแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬาอยู่ในระหว่างขั้นตอนการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งนี้คณะรัฐมนตรี (ครม.) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เพิ่งรับทราบข้อสังเกตของวาด้า เมื่อการประชุมครม.วันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา ขณะนี้กำลังประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาว่า ประเด็นที่วาด้าต้องการให้แก้ไขเพิ่มเติมมีเรื่องใดบ้าง หากได้ข้อมูลที่ถูกต้องตรงกันเป็นลายลักษณ์อักษรจาก กกท. แล้ว จะได้ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายให้ถูกต้องและสอดคล้องกับความต้องการต่อไป

TOP ข่าวกีฬา
วิดีโอยอดนิยม
เรื่องที่คุณอาจพลาด

วิดีโอยอดนิยม

ข่าวเด่นในรอบสัปดาห์

เพิ่ม PPTVHD36
ลงในหน้าจอหลักของคุณ