ปรีวิว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เสาร์ที่ 16 ตุลาคม 2564
(13) เลสเตอร์-แมนฯ ยูไนเต็ด (4)
สนาม : คิง พาวเวอร์ สเตเดี้ยม เวลาคิกออฟ : 21.00 น.
ผู้ตัดสิน : เคร็ก พอว์สัน
ผลงานการพบกันในฤดูกาลที่ผ่านมา
12 พ.ค.2564 แมนฯ ยูไนเต็ด 1–2 เลสเตอร์ (พรีเมียร์ลีก)
22 มี.ค.2564 เลสเตอร์ 3–1 แมนฯ ยูไนเต็ด (เอฟเอ คัพ รอบ 8 ทีม)
26 ธ.ค.2563 เลสเตอร์ 2–2 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก)
เผยสถิติไม่สู้ดี หาก ลินเดอเลิฟ จับคู่ ไบยี่ เล่นให้ แมนฯ ยูไนเต็ด
แมนฯ ยูไนเต็ด แถลง ราฟาแอล วาราน เจ็บพัก 2-3 สัปดาห์
เลสเตอร์-ผลงาน 5 นัดหลังสุด
3 ต.ค.2564 เสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
30 ส.ค.2564 แพ้ ลิเกีย วอร์ซอว์ 0-1 (เยือน) ยูโรป้า ลีก
25 ส.ค.2564 เสมอ เบิร์นลี่ย์ 2-2 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
22 ส.ค.2564 ชนะ มิลล์วอลล์ 2-0 (เยือน) คาราบาว คัพ
19 ส.ค.2564 แพ้ ไบรท์ตัน 1-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
สภาพทีมเลสเตอร์
เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ก่อนเกมพักเบรคทีมชาติ พาทีมบุกไปเสมอ คริสตัล พาเลซ 2-2 ทั้งที่เป็นฝ่ายนำก่อน 2-0 เกมนี้ลุ้นได้ จอนนี่ อีแวนส์ ที่เจ็บเท้ากลับมาเป็นตัวเลือกในการพบทีมเก่า และจะถือว่ากลับมาสตาร์ตครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน ขณะที่ ยานนิค เวสเตอร์การ์ด มีอาการน็อกมาจากการเล่นให้ทีมชาติเดนมาร์ก ต้องรอประเมินก่อนลงเล่น ส่วน วิลฟรีด เอ็นดิดี้ ,เวสลี่ย์ โฟฟาน่า และ เจมส์ จัสติน ทั้งหมดยังเจ็บ เกมรุก เจมี่ วาร์ดี้ น่าจะได้จับคู่กับ เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ต่อไป หลังจากทั้งคู่ทำประตูในเกมลีกล่าสุด บูบาการี่ ซูมาเร่ และ ริคาร์โด้ เปไรร่า รวมถึง เจมส์ แมดดิสัน หวังได้สตาร์ตเป็น 11 ตัวจริง
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
เลสเตอร์ ซิตี้ (4-4-2) : แคสเปอร์ ชไมเคิ่ล; ริคาร์โด้ เปไรร่า,ซากลาร์ โซยุนชู, ยานนิค เวสเตอร์การ์ด, ไรอัน เบอร์ทรานด์ ; อเดโมล่า ลุคแมน, ยูริ ตีเลมันส์, บูบาการี่ ซูมาเร่, ฮาร์วี่ย์ บาร์นส์; เจมี่ วาร์ดี้, เคเลชี่ อิเฮียนาโช่
แมนฯ ยูไนเต็ด
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
2 ต.ค.2564 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
29 ก.ย.2564 ชนะ บียาร์เรอัล 2-1 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
25 ก.ย.2564 แพ้ แอสตัน วิลล่า 0-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
22 ส.ค.2564 แพ้ เวสต์แฮม 0-1 (เหย้า) คาราบาว คัพ
19 ส.ค.2564 ชนะ เวสต์แฮม 2-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
สภาพทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
โอเล่ กุนนาร์ โซลชา เกมนี้จะไม่มี ราฟาแอล วาราน ปราการหลังตัวหลัก ที่เจ็บจากเกมยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ที่เล่นให้ ฝรั่งเศส ในเกมชนะ สเปน 2-1 เมื่อกลางสัปดาห์ แต่ในรายของ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ กัปตันทีม นายใหญ่ชาวนอร์วีเจี้ยน เผยว่าแช้งวัย 28 ปี อาจมีเซอร์ไพรส์ลงเล่นได้ หลังลงซ้อมบนพื้นสนามได้แล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่านัดนี้ตำแหน่งคู่เซ็นเตอร์น่าจะเป็นการจับคู่ของ วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ กับ เอริค ไบยี่ ด้าน เฟร็ด และ เอดินสัน คาวานี่ เป็นอีก 2 แข้งที่จะพลาดเช่นกัน เนื่องจากเพิ่งกลับมาจากเดินทางไปเล่นฟุตบอลโลก 2022 โซนอเมริกาใต้ ระหว่าง บราซิล กับ อุรุกวัย มาร์คัส แรชฟอร์ด กลับมาซ้อมเต็มรูปแบบหลังผ่าตัดไหล่ และมีลุ้นเป็นตัวจริง เบียดแย่งพื้นที่เกมรุกฝั่งซ้ายกับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล และ เจดอน ซานโช่ ส่วน คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่เพิ่งทำแฮตทริกที่ 58 ในอาชีพในเกมทีมชาติที่โปรตุเกส ถล่ม ลักแซมเบิร์ก 5-0 น่าจะได้สตาร์ตเป็น 11 เช่นเดียวกับ บรูโน่ แฟร์นันด์ส รุ่นน้องเพื่อนร่วมชาติ
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
แมนฯ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : ดาบิด เด เคอา; อารอน วาน-บิสซาก้า, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ, เอริค ไบยี่, ลุค ชอว์;สกอตต์ แม็คโทมิเนย์, ปอล ป็อกบา ; เมสัน กรีนวู้ด, บรูโน่ แฟร์นันด์ส, เจดอน ซานโช่; คริสเตียโน่ โรนัลโด้
เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม
-พบกันในพรีเมียร์ลีก มาแล้ว 30 นัด เลสเตอร์ ชนะ 3 นัด แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ 19 นัด และเสมอกันไป 8 นัด
- ฤดูกาลที่แล้ว เลสเตอร์ ซิตี้ ไม่แพ้ในการพบกับ แมนฯ ยูไนเต็ด ทั้ง 3 นัด (ชนะ 2 เสมอ 1 ) และหากชนะในเกมนี้จะเป็นการชนะ 3 นัดต่อเนืองเหนือ “ปิศาจแดง”ในทุกรายการ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ปี 1901
-แมนฯ ยูไนเต็ด แพ้แค่เกมเดียวจาก 15 เกมเยือนในพรีเมียร์ลีกที่พบกับเลสเตอร์ (ชนะ 9 เสมอ 5) โดยเกมนั้นบุกมาแพ้ 3-5 ในเดือนกันยายน 2014 ภายใต้การคุมทีมของหลุยส์ ฟาน กัล อย่างไรก็ตาม เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา “ปิศาจแดง” นั้นก็บุกมาแพ้ที่คิง เพาเวอร์ สเตเดียม ในเอฟเอ คัพ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ด้วยสกอร์ 1-3
-แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังมองหาการเพิ่มสถิติ ไม่แพ้ใครเกมนอกบ้านในลีกเป็น 30 นัด (ชนะ19 เสมอ 10) และไม่เสียมากกว่า 1 ประตู ใน15 เกมหลังสุด ซึ่งถือว่าเป็นสถิติยาวนานที่สุดในลีก
- เลสเตอร์ ชนะ 5 จาก 16 นัดที่ผ่านมาในลีก ซึ่งรวมถึง 2 จาก 7 เกมในฤดูกาลนี้
-เจมี่ วาร์ดี้ ศูนย์หน้าจอมเก๋าของเลสเตอร์ ที่ในเกมนัดนี้จะอายุ (34 ปี 278 วัน) ยิงได้ตลอด 3 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีก โดยมีผู้เล่นเพียงคนเดียวที่อายุมากกว่า วาร์ดี้ ที่ทำสถิติในพรีเมียร์ลีกตรงนี้ได้มากกว่า นั่นคือ 4 นัดติดต่อกัน ซึ่งแข้งรายนั้น คือ แกรี่ แม็คอัลลิสเตอร์ ที่ทำได้เมื่อเดือนพฤษภาคม ปี2001 ซึ่งตอนนั้นอยู่กับลิเวอร์พูล โดยมีอายุ (36 ปี 127 วัน)
-เคเลชี่ อิเฮียนาโช่ ทำประตูได้ 11 ประตูในการออกสตาร์ตเกมพรีเมียร์ลีก 12 นัดล่าสุดให้กับเลสเตอร์ ขณะที่ เจมี่ วาร์ดี้ ยิงประตูได้ มาแล้ว 3 นัดติดต่อกันในเกมลีก
-วิคเตอร์ ลินเดอเลิฟ และ เอริค ไบยี่ ยามเมื่อลงเล่นคู่กัน 18 นัด ปรากฏว่า ช่วยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะเพียง 44 เปอร์เซ็นต์ เสียประตูเฉลี่ย 1.39 ลูกต่อเกม และเก็บคลีนชีตได้ 22 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
-คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หากทำประตูได้ในเกมนี้ เลสเตอร์ จะกลายเป็นทีมที่ 120 ที่ดาวเตะวัย 36 ปี ยิงได้ในการเล่นอาชีพ