เกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก รอบ 32 ทีมสุดท้าย ที่ว่านต๋า เมโทรโปลิตาโน่ จบลงด้วยชัยชนะของพลพรรค “หงส์แดง” ที่บุกไปเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด ถึงถิ่น 3-2
ลิเวอร์พูล ได้ประตูจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ คนเดียว 2 ประตูในนาทีที่ 8 กับจุดโทษนาทีที่ 78 และ นาบี้ เกอิต้า นาทีที่ 13 ส่วน แอตฯมาดริด ได้ประตูจาก อองตวน กรีซมันน์ คนเดียว 2 ประตูในนาทีที่ 20 กับ 34 ก่อนที่ กรีซมันน์ จะโดนใบแดงไล่ออกจากสนามในนาทีที่ 52 ส่งผลให้ ลิเวอร์พูล เก็บ 9 แต้มเต็ม 3 นัดขึ้นไปเป็นจ่าฝูง
"โรนัลโด้" เสนอบอร์ดแมนฯยูดึง "ซีดาน"คุมแทน"โซลชาร์"
ซาล่าห์ ทุบสถิติแข้งลิเวอร์พูล คนแรก ยิง 9 เกมติดทุกรายการ
"ลิเวอร์พูล" บุกคว่ำ "แอต.มาดริด" 3-2 ศึกแชมเปี้ยนส์ลีก
ส่วน แอตฯ มาดริด มี 4 แต้มเท่ากับ ปอร์โต้ แต่ประตูได้เสียดีกว่าทำให้รั้งรองจ่าฝูง โดยคู่นี้หลังจบเกมมีดราม่าเกิดขึ้น เพราะทันทีที่ผู้ตัดสิน ดาเนียล ซีแบร์ท เป่าจบเกม ดีเอโก้ ซิเมโอเน่ กุนซือแอตฯมาดริด ก็วิ่งเข้าห้องแต่งตัวไปทันทีโดยไม่ยอมจับมือกับ คล็อปป์ ที่ทำได้เพียงยกนิ้วโป้งให้เป็นการประชดเท่านั้น ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว คล็อปป์ เปิดเผยว่า ณ จุดนี้เขาก็ไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นเช่นกัน ซิเมโอเน่ อาจจะสะเทือนใจหลังทีมแพ้ถึงได้ทำแบบนั้น ซึ่งเขาเองก็มีอารมณ์เช่นกัน และเมื่อเจอคนทำตัวไม่น่ารักใส่เขาก็ไม่จำเป็นต้องเอามาใส่ใจ ส่วนเกมวันนี้เขาต้องขอชื่นชมนักเตะทุกคนที่เล่นกันได้อย่างยอดเยี่ยม และได้ 3 คะแนนตามเป้าที่วางเอาไว้ โดยเฉพาะ โม ซาลาห์ ที่แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นสุดยอดนักเตะ และสมควรได้รับรางวัลระดับโลกได้แล้ว