ปรีวิว พรีเมียร์ลีก อังกฤษ
พุธที่ 1 ธันวาคม 2564
(14) เอฟเวอร์ตัน-ลิเวอร์พูล (3)
สนาม : กูดิสัน ปาร์ค เวลาคิกออฟ : 03.15 น.
ผู้ตัดสิน : พอล เทียร์นี่ย์
ผลงานการพบกันในฤดูกาลที่ผ่านมา
21 ก.พ.2564 ลิเวอร์พูล 0-2 เอฟเวอร์ตัน
17 ต.ค. 2563 เอฟเวอร์ตัน 2-2 ลิเวอร์พูล
เอฟเวอร์ตัน
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
28 พ.ย.2564 แพ้ เบรนทฟอร์ด 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
21 พ.ย.2564 แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 0-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
7 พ.ย.2564 เสมอ สเปอร์ส 0-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
วิเคราะห์บอล !! พรีเมียร์ลีก บิ๊กแมตช์ ลิเวอร์พูล พบ เอฟเวอร์ตัน 20 ก.พ.64
"หงส์แดง" บุกเจ๊า "ท็อฟฟี่" 1-1 เกม "เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ แมตช์"
2 พ.ย.2564 แพ้ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
23 ต.ค.2564 แพ้ วัตฟอร์ด 2-5 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
สภาพทีมเอฟเวอร์ตัน
ราฟาเอล เบนิเตซ พาเอฟเวอร์ตัน ทำผลงานออกทะเล หลังไม่ชนะในลีกมาแล้วติดต่อกัน 7 นัด (เสมอ 5 แพ้) 2 ซึ่งถือเป็นผลงานแย่ที่สุดตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2018 ในยุคของ แซม อัลลาร์ไดซ์ เวลานี้มีเพียง 15 คะแนน จาก 13 นัด โดยเกมล่าสุดบุกไปแพ้ เบรนท์ฟอร์ด 0-1 เดมาไร เกรย์ หายเจ็บกลับมาลงเป็นตัวสำรอง ในเกมดังกล่าวลุ้นสตาร์ตในเกมเมอร์ซี่ไซด์ นอกจากนี้ในแดนหน้ายังได้ ริชาร์ลิซอน กลับมาจากโทษแบน ทำให้ ซาโลมอน รอนดอน จะกลับไปนั่งสำรองตามเดิมส่วน เมสัน โฮลเกต ยังถูกพักแข้งอีกนัด ด้าน เยร์รี มีน่า,อังเดร โกเมส และ ทอม เดวิส ทั้งหมดยังเจ็บ เช่นเดียวกับ โดมินิก คัลเวิร์ต-ลูวิน ที่อาจคืนทีมได้ก่อนคริสต์มาส
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
เอฟเวอร์ตัน (4-4-1-1) :จอร์แดน พิคฟอร์ด; เชมัส โคลแมน, เบน ก็อดฟรีย์, ไมเคิ่ล คีน, ลูก้าส์ ดีญ; แอนดรอส ทาวน์เซนด์,อัลลัน, อับดูลาย ดูกูเร่, อเล็กซ์ อิโวบี้ ; เดมาไร เกรย์; ริชาร์ลิซอน
ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
27 พ.ย.2564 ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 4-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
24 พ.ย.2564 ชนะ ปอร์โต้ 2-0 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
20 พ.ย.2564 ชนะ อาร์เซน่อล 4-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
7 พ.ย.2564 แพ้ เวสต์แฮม 2-3 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
3 พ.ย.2564 ชนะ แอต.มาดริด 2-0 (เหย้า) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
สภาพทีมลิเวอร์พูล
เจอร์เก้น คล็อปป์ พาทีมชนะใน 3 เกมหลังแบบไม่เสียคลีนชีท โดยในเกมลีก ชนะ เซาธ์แฮมป์ตัน 4-0 และ โดยเวลานี้เตะไป 13 นัด มี 28 คะแนน จากการชนะ 8 เสมอ 4 แพ้ 1 เกมนี้ยังคงไม่มี โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, โจ โกเมซ,เคอร์ติส โจนส์ และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ที่ยังเจ็บทั้งหมด เกมรับ อิบราฮิม่า โคนาเต้ น่าจะยืนเซ็นเตอร์คู่กับ เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ต่อไปทำให้ โฌเอล มาติป จะสตาร์ตที่ม้านั่งสำรองอีกครั้ง ด้าน ติอาโก้ อัลกันตาร่า ฟิตพอที่จะมีชื่อเป็นตัวจริง ส่วน เจมส์ มิลเนอร์ แม้จะหายเจ็บแล้วแต่คงได้โอกาสลงในครึ่งหลังเหมือนเกมเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, อิบราฮิม่า โคนาเต้, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค,แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ; จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ,ฟาบินโญ่,ติอาโก้ อัลกันตาร่า ; โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดีโอโก้ โชต้า, ซาดิโอ มาเน่
เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม
-เป็นเกมเมอร์ซี่ไซด์ ดาร์บี้ นัดที่ 239 ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ชนะ 96 นัด เอฟเวอร์ตัน ชนะ 67 นัดเสมอกันไป 76 นัด
-พบกันในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 58 นัด เอฟเวอร์ตัน ชนะ 10 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 24 นัด เสมอกัน 24 นัด
-พบกันในลีก 3 นัดล่าสุด เอฟเวอร์ตัน ไม่เคยแพ้ (ชนะ 1 เสมอ 2)
-การชนะ ลิเวอร์พูล ของเอฟเวอร์ตัน ในเกมล่าสุดเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ถือเป็นการหยุดสถิติไม่เคยชนะ “หงส์แดง” 20 นัด ในพรีเมียร์ลีก
-ลิเวอร์พูลไม่แพ้ใน 10 เกมเยือนพรีเมียร์ลีกหลังสุดที่พบกับเอฟเวอร์ตัน นับตั้งแต่แพ้ครั้งหลังสุด 2-0 ในเดือนตุลาคม 2010 อย่างไรก็ตาม 8 จาก9 เกมเยือนจบลงด้วยผลเสมอ รวมถึง 4 เกมหลังสุด
-ลิเวอร์พูล ทำประตูได้อย่างน้อย 2 ประตูใน 17 เกมหลังสุดในทุกรายการ ถือเป็นสถิติร่วมที่ยาวที่สุดในประวัติศาสตร์ของทีมลีกสูงสุดของอังกฤษ (เท่ากับซันเดอร์แลนด์ในปี 1927)
-มีเพียง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ทำได้ 11 ประตูในพรีเมียร์ลีกให้กับลิเวอร์พูลในฤดูกาลนี้มากกว่า 7 ประตูของ ดิโอโก้ โชต้า ที่ทำไปแล้ว 8 ประตูจากการเป็นตัวจริง 11 นัดล่าสุดในการลงเล่นให้ลิเวอร์พูล