เสาร์ที่ 2 มกราคม 2565
(2) เชลซี-ลิเวอร์พูล (3)
สนาม : สแตมฟอร์ด บริดจ์ เวลาคิกออฟ : 23.30 น.
ผู้ตัดสิน : แอนโธนี่ เทย์เลอร์
ผลงานการพบกันในฤดูกาลนี้
28 ส.ค.2564 ลิเวอร์พูล 1-1 เชลซี
ผลงานการพบกันในฤดูกาลที่ผ่านมา
5 มี.ค.2564 ลิเวอร์พูล 0-1 เชลซี
20 ก.ย.2563 เชลซี 0-2 ลิเวอร์พูล
เชลซี
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
29 ธ.ค.2564 เสมอ ไบรท์ตัน 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
26 ธ.ค.2564 ชนะ แอสตัน วิลล่า 3-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
22 ธ.ค.2564 ชนะ เบรนท์ฟอร์ด 2-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
วิเคราะห์บอล !! บิ๊กแมตช์ พรีเมียร์ลีก ลิเวอร์พูล พบ เชลซี 4 มี.ค. 64
วิเคราะห์บอล!! พรีเมียร์ลีก ซูเปอร์บิ๊กแมตช์ เชลซี พบ ลิเวอร์พูล
19 ธ.ค.2564 เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 0-0 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
16 ธ.ค.2564 เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
สภาพทีมเชลซี
เชลซี เวลานี้แข่งไป 20 นัดมี 42 คะแนน โธมัส ทูเคิ่ล กุนซือชาวเยอรมันจะไม่มี รีช เจมส์ วิงแบ็กขวา ที่เจ็บจากเกมล่าสุดที่เสมอ ไบรท์ตัน 1-1 เมื่อกลางสัปดาห์ต้องพักหนึ่งเดือน ส่วน เอ็นโกโล่ ก็องเต้ หายเจ็บกลับมาลงสนามเป็นตัวสำรองในเกมเดียวกัน เกมนี้ลุ้นสตาร์ต ในรายของ ติอาโก้ ซิลวา และ ติโม แวร์เนอร์ ต้องรอประเมินหลังกลับมาซ้อมได้แล้ว อันเดรส คริสเตียนเซ่น ยังต้องลุ้นหลังมีปัญหาเจ็บหลัง ขณะที่ รูเบน ลอฟตัส-ชีค มีลุ้นคืนทีมเช่นกัน ด้าน เบน ชิลเวลล์ นั้นปิดเทอมเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากจะต้องเข้ารับการผ่าตัดรักษาอาการที่เอ็นหัวเข่า
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
เชลซี (3-4-2-1) : เอดูอาร์ เมนดี้; เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า,เทรวอห์ ชาโลบาห์, อันโตนิโอ รือดิเกอร์; คัลลั่ม ฮัดสัน-โอดอย, จอร์จินโญ่,เอ็นโกโล่ ก็องเต้,มาร์กอส อลอนโซ่; เมสัน เมาท์,ไค ฮาร์แวร์ตซ์; โรเมลู ลูกากู
ลิเวอร์พูล
ผลงาน 5 นัดหลังสุด
28 ธ.ค.64 แพ้ เลสเตอร์ 0-1 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
19 ธ.ค.2564 เสมอ สเปอร์ส 2-2 (เยือน) พรีเมียร์ลีก
16 ธ.ค.2564 ชนะ นิวคาสเซิ่ล 3-1 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
11 ธ.ค.2564 ชนะ แอสตัน วิลล่า 1-0 (เหย้า) พรีเมียร์ลีก
7 ธ.ค.2564 ชนะ เอซี มิลาน 2-1 (เยือน) ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก
สภาพทีมลิเวอร์พูล
ลิเวอร์พูลโดน เลสเตอร์ ที่แพ้มาในเกม คาราบาว คัพ ถอนแค้นเกมลีกไปเมื่อกลางสัปดาห์ หลังแพ้ 0-1 ชนิดที่ โมฮาเหม็ด ซาล่าห์ ยิงจุดโทษไม่เข้า ทำให้เวลานี้เตะไป 19 นัด มี 41 คะแนน เกมนี้ เจอร์เก้น คล็อปป์ เกมนี้จะไม่ได้คุมทีมไปเล่นที่ลอนดอน เนื่องจากผลตรวจเสี่ยงสูงที่จะติดโควิด โดยจะเป็น เป๊บ ลินจ์เดอร์ส มือขวาที่ทำหน้าที่แทน สภาพทีมยังคงไม่มี แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน แบ๊กซ้ายจอมบุกติดแบนเป็นเกมสุดท้ายจากทั้งหมด 3 นัด ในรายของ ติอาโก้ อัลคันทาร่า ยังต้องกักตัวต่อไป หลังผลตรวจเป็นบวก ด้าน ทาคุมิ มินามิโนะ ยังมีปัญหาเจ็บ เช่นเดียวกับดิว็อก โอริกี้, นาธาเนี่ยล ฟิลลิปส์, และ ฮาร์วี่ย์ เอลเลียตต์ ยังอยู่ในความดูแลของทีมแพทย์ทั้งหมด
ผู้เล่น 11 คนแรกที่คาดว่าจะลงสนาม
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลีสซง เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์,โฌเอล มาติป, เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค,คอสตาส ซิมิคาส; จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่,อเล็กซ์ อ็อกซ์เล็ด แชมเบอร์เลน; โมฮาเหม็ด ซาล่าห์, ดีโอโก้ โชต้า, ซาดิโอ มาเน่
เกร็ดน่าสนใจก่อนเกม
-พบกันในพรีเมียร์ลีก 59 นัด เชลซี ชนะ 21 นัด ลิเวอร์พูล ชนะ 23 นัด ลงเอยด้วยผลเสมอ 15 นัด
-ลิเวอร์พูล จะกลายเป้นทีมที่ 2 ในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก ที่บุกมาชนะ เชลซี 3 เกมติดต่อกัน หากคว้าชัยเกมนี้ หลังจาก แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส เคยทำไว้ในฤดูกาล 1993-1994 และ 1995-1996.
-เชลซีไม่ชนะเลยเกมลีกในการเปิดหัวศักราชใหม่ ใน5 ปีที่ผ่านมา (เสมอ 3 แพ้ 2) นับตั้งแต่เอาชนะคริสตัล พาเลซ 3-0 ในปี 2016 มีเพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่พวกเขามีสถิติไร้ชัยชนะยาวนานกว่าในประวัติศาสตร์ลีกของพวกเขา (10 นะดระหว่างปี 1929 ถึง 1938)
-โธมัส ทูเคิ่ล แพ้ 9 จาก 16 นัดในฐานะผู้จัดการทีมที่เจอกับ เจอร์เก้น คล็อปป์ (ชนะ3 เสมอ 4) แต่เป็นการไม่แพ้ใน 3 เกมหลังสุด
-โรเมลู ลูกากู ไม่สามารถทำประตูในเกมลีก 8 นัดติดต่อกันกับลิเวอร์พูล นับตั้งแต่ทำประตูได้สมัยอยู่กับเอฟเวอร์ตัน ที่จบด้วยผลเสมอ 1-1 ที่กูดิสัน พาร์ค เมื่อเดือนตุลาคม 2015
-โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ของลิเวอร์พูล ซึ่งเคยเล่นให้กับเชลซี มีส่วนร่วมโดยตรงกับ 8 ประตูจาก 13 เกมลีกหลังสุดกับทีมลอนดอน คือ ในขณะเดียวกัน ไม่มีผู้เล่นลิเวอร์พูลคนใดทำประตูในพรีเมียร์ลีกในลอนดอนได้มากไปกว่าแข้งชาวอียิปต์
-ฟาบินโญ่ กองกลางลิเวอร์พูล เตรียมลงเล่นพรีเมียร์ลีกครบ 100 นัด