อดีตนักมวยไทยคนนี้่ยอมเปิดใจกับทีมข่าวพีพีทีวี เกี่ยวกับขบวนการล้มมวย เพื่อให้หวังผลเดิมพันพนัน โดยนักมวยคนนี้เล่าให้ฟังว่าในวงการพนันมวยไทย จะมีเซียนมวยอยู่ 2 ประเภท คือเซียนมวยที่วางเงินอัดฉีดให้นักมวยที่ตัวเองเชียร์อยู่ชนะ และเซียนมวยที่มองหาประโยชน์ด้วยวิธีการจ้างนักมวยให้ล้มมวย หวังเงินพนันในการต่อรองคู่ชกที่เป็นรองกว่า
นักมวยคนนี้ ยังบอกว่า เมื่อ 10 ปีก่อนเคยมีเซียนมวยเข้ามาต่อรองให้ล้มมวย โดยให้ค่าจ้าง 8 หมื่นบาท ขณะที่ค่าตัวขึ้นชกอยู่ที่หมื่นกว่าบาท โดยการเข้ามาติดต่อของเซียนมวย จะใช้นักมวยนกต่อที่เข้ามาอยู่ในค่าย เข้ามาสังเกตการณ์การซ้อม เมื่อรู้ว่าเป็นต่อ นักมวยนกต่อจะเข้ามาทาบทาม ให้ล้มมวย
นักมวยนกต่อ พัฒนาจาก นักมวยที่เซียนมวยส่งเข้าไปสังเกตการณ์ตามค่ายมวยต่างๆ เพื่อรายงานผลกลับไปที่เซียนมวยว่าควรพนันฝั่งไหน ในวงการเรียกกันว่า “ขายเบอร์”
ทีมข่าวยังได้พูดคุยกับ นายธัชนนท์ คชชาสุวรรณ เจ้าของค่ายมวยสิงห์มาวิน บอกว่า เซียนกร ฝากนักมวย ชื่อ นายรัฐพงศ์ สิงห์ทอง นักมวยนกต่อ เข้ามาซ้อม ไม่ใส่ใจว่า จะเข้ามาสอดแนมนักมวยในค่าย
ล่าสุดคดีการล้มมวย นายธัชนนท์ เจ้าของค่ายสิงห์มาวิน ได้จ่ายเงินประกันตัวให้กับร้อยเชิง และให้กลับไปจ.สงขลาแล้ว ซึ่งเจ้าของค่ายสิงห์มาวิน ยอมรับว่า ไม่อยากเอาเรื่อง เพราะเป็นเด็กที่สร้างมาจากค่ายแต่แค่อยากรื้อวงการล้มมวยให้สิ้นซาก
โดยตอนนี้สืบจนพบว่า เซียนกร และนักมวย พัวพันการล้มมวยคู่ “สิงขร เกียรติพลทิพย์” ที่แพ้น็อกไปเมื่อวันที่ 20 พ.ย. ปีที่แล้ว เวทีลุมพินี ตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาลกำลังออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้อง ซึ่งหลังเกิดเรื่อง นายรัฐพงศ์ นักมวยนกต่อ หายตัวไปจากค่ายสิงห์มาวิน ส่วนเซียนเอก ติดต่อขอมอบตัวกับตำรวจ สน.นางเลิ้งแล้ว