“อุไทย เฮอริเทจ” บูติกโฮเทลใจกลางเมืองอุทัยฯ ที่เปลี่ยนจากโรงเรียนหลังเก่าหลายสิบปี มาเป็นที่พักแนวอนุรักษ์ ที่จะทำให้หวนนึกถึงช่วงเวลาดี ๆ ในวัยเด็ก
การรักษาของเก่านอกจากจะคงอดีต ยังเป็นการรื้อฟื้นสิ่งที่คิดถึงให้กลับมาอีกครั้ง แม้ภายนอกของอาคารเก่าแก่ที่ถูกปล่อยทิ้งร้างจะดูไม่น่าอยู่ แต่หากนำมาปรับปรุง ต่อเติมใหม่ ตึกเก่าที่มีคุณค่าในอดีต อาจกลับมาชีวิตชีวาเพื่อใช้ประโยชน์ได้อีกครั้ง
เหมือนอย่างโรงแรมแนวบูติก “อุไทย เฮอริเทจ” ที่ใช้เทคนิคสถาปัตยกรรมเข้ามารีโนเวทโรงเรียนเก่าให้เป็นที่พักอาศัยระดับโลก (world-class) ที่ยังคงมีกลิ่นอายของโรงเรียนดั้งเดิมและผสมผสานความเป็นอุทัยธานีได้อย่างลงตัว จนได้รับรางวัลสถาปัตยกรรมดีเด่น
เปิดจุดเช็กอิน ‘ฉุยฟง คาเฟ่ 2’ ชมไร่ชาคว้ารางวัลดีไซน์ เพื่อคนทั้งมวล
ชวนเช็กอิน “ตำหนิโฮสเทล” ที่พักดีไซน์สวยที่ไม่จำเป็นต้องสมบูรณ์แบบ
เปลี่ยนโรงเรียนเก่า เป็นโรงแรม
เดิมพื้นที่โรงแรม “อุไทย เฮอริเทจ” แห่งนี้เคยเป็นอาคารเรียนหลังหนึ่งของ “อุทัยวิทยาลัย” โรงเรียนราษฎร์แห่งแรกของจังหวัดอุทัยธานี ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับจำนวนนักเรียนและบุคลากรที่เพิ่มขึ้นในปี 2500 แต่เมื่อภายในจังหวัดมีโรงเรียนเพิ่ม นักเรียนของอุทัยวิทยาลดลง ทางโรงเรียนตัดสินใจจัดการเรียนการสอนที่อาคารอื่น ทำให้อาคารแห่งนี้ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นโรงเรียนอีกต่อไป กระทั่งต้องยกเลิกกิจการไปในปี 2560
อาคารหลังนี้จึงถูกปล่อยให้ทิ้งร้างนานกว่า 5 ปี จน ทันตแพทย์กฤตพล พรพิบูลย์ เจ้าของคนปัจจุบัน เห็นว่าควรจะทำอะไรสักอย่างให้มรดกของคุณปู่กลับมามีชีวิตอีกครั้ง จนไปสะดุดกับคลาสเรียนเปลี่ยนบ้านเก่าเป็นโรงแรมของอาจารย์ขิง (วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์) จึงตัดสินใจนำบทเรียนที่ได้เรียนรู้มา เอามาปรับโฉมโรงเรียนเก่า ให้กลายเป็นบูติกโฮเทล “อุไทย เฮอริเทจ” (Uthai Heritage) ที่เราเห็นกัน
บูติกโฮเทลที่เชื่อมคนและเมืองอุทัยฯ
ในยุคนี้ถ้าจะทำโรงแรมให้สวยงามอย่างเดียวคงไม่เพียงพอ ทันตแพทย์กฤตพล อธิบายว่า ความสวยงามเป็นสิ่งที่จะทับถมกันไปเรื่อย ๆ วันนี้โรงแรมเราอาจจะสวย แต่วันหน้าก็อาจมีโรงแรมอื่นที่สวยกว่า นี่จึงเป็นที่มาให้เขาคิดจะทำบูติกโฮเทลคอนเซปต์ Community Base Hotel หรือพื้นที่ที่เอื้อประโยชน์กับชุมชน เพราะเชื่อว่าตรงนี้จะเป็นจุดขายของโรงแรมที่จะช่วยให้อยู่คู่กับชุมชนและเมืองอุทัยธานีไปได้นาน โดยแชร์สามเรื่อง คือ
- การกระจายรายได้ รวมถึงการจ้างงานคนในท้องถิ่น
- การสร้างโอกาส ให้คนหนุ่มสาวมีโอกาสมีรายได้ เชื่อว่าคนอยู่บ้าน แล้วประเทศจะเจริญขึ้น และคนเก่ง ๆ ไม่จำเป็นต้องกระจุกตัวอยู่ในกรุงเทพฯ
- การสร้างการศึกษา ให้โรงแรมเป็นแหล่งเรียนรู้ได้
ไม่เพียงเท่านั้น เขายังอยากจะเก็บสปิริตเดิมของอาคารที่ยังคงกลิ่นอายของความเป็นอุทัยธานีเอาไว้ และตั้งใจพัฒนาให้โรงแรมอยู่ในระดับโลก (world-class) ด้วย จนไปเจอกับ วรพันธุ์ คล้ามไพบูลย์ สถาปนิกจาก SuperGreenStudio ความฝันของเขาเลยเป็นความจริง
สถาปัตยกรรมพื้นถิ่นสู่การอนุรักษ์
วรพันธุ์ เริ่มออกแบบโรงแรมอุไทย เฮอริเทจจากแนวคิดที่ว่า อุทัยธานีเป็นไอคอนิกของการอนุรักษ์ เพราะที่นี่มีทั้ง “ห้วยขาแข้ง” มีวีรบุรุษแห่งพงไพรอย่าง “สืบ นาคะเสถียร” และ “ม.ล.เชน” (ปริญญากร วรวรรณ) ช่างภาพสัตว์ป่าชื่อดัง
ทำให้เขาเริ่มต้นออกแบบอาคารหลังนี้ ให้มีห้องจัดกิจกรรมค่อนข้างเยอะ เพื่อให้นักกิจกรรมเชิงอนุรักษ์มาตัวกันที่นี่ ไม่เพียงเท่านั้นยังตั้งใจปรับปรุงตัวสถานที่ให้พูดถึงการอนุรักษ์ในหลาย ๆ ด้านด้วย
และเนื่องจากอาคารหลังเก่านี้ เป็นอาคารไม้สูง 3 ชั้น ที่มีอายุมากว่า 80 ปี วรพันธุ์ จึงต้องตัดสินใจเทคานรัดเสาเดิม เพื่อเพิ่มความแข็งแรงให้อาคารหลังเก่านี้ ให้สามารถรองรับน้ำหนักของนักกิจกรรมที่อาจเข้ามาจำนวนมากเหล่านั้นได้
ด้วยการเสริมโครงสร้างเหล็กเข้าไปในเนื้อไม้แล้วก็เทปูนหุ้ม แต่ยังคงปล่อยให้หลังคามีช่องว่างกว้าง ๆ เพื่อช่วยให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก มากไปกว่านั้นยังก่อผนังอิฐเพิ่ม เพื่อช่วยกันไฟและกันเสียง ส่วนโครงสร้างภายนอกที่เพิ่มเข้ามา อย่างห้องน้ำ ก็ตอกเสาเข็มภายนอกรองรับ
สำหรับไม้เก่า ๆ ของอาคารหลังนี้ ก็ไม่ได้รื้อทิ้งไปไหน ถอดออกไปขัดแล้วนำมาประกอบใหม่ เอาไปใช้กับระเบียงที่ตากผ้า อีกฟังก์ชันก็เอาไปตกแต่งช่วยหลบสายตาจากความไม่เรียบร้อย ขณะเดียวกันป้ายบอกห้องเรียน หรือผนังแผนที่ ก็ยังตั้งไว้ที่เดิม เพียงแต่นำมาเช็ดทำความสะอาด แล้วเอาข้าวของเครื่องใช้ชิ้นเล็กชิ้นน้อยมาประดับประดาให้สวยงาม
แต่ในส่วนของหน้าต่างและประตูเดิม วรพันธุ์ ได้เปลี่ยนไปใช้ไม้จากพม่า เพื่อขยายสเกลให้ใหญ่ขึ้น ขณะที่เสาแต่ละต้นจะปล่อยให้เปลือยเปล่า เผยให้เห็นความงดงามจากความเรียบง่ายตามฉบับวะบิซาบิ (Wabi-Sabi)
ทั้งหมดนี้เป็นส่วนของโครงสร้าง สำหรับการตกแต่ง วรพันธุ์ เน้นใช้สีขาว ดำ เทา และไม้ธรรมชาติ เป็นหลัก ทำให้แต่ละจุดของอาคารหลังนี้มีเสน่ห์เฉพาะตัว นอกจากนี้ยังเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจ ผสมผสานกับศิลปะร่วมสมัย เพื่อให้ผู้ใช้บริการได้สัมผัสเสน่ห์ความเป็นยุคเก่า และได้รับความสะดวกสบายไปในตัว
เมื่อทำเสร็จจนเป็นรูปเป็นร่างแล้ว จะเห็นว่าอาคารหลังนี้ถูกแบ่งเป็น 17 ห้องพัก ที่เหลือเป็นห้องประชุมใหญ่ที่จุคนได้ถึง 200 คน ห้องจัดกิจกรรม ล็อบบี้ เลาจน์ ห้องฟิตเนต ห้องสำหรับแม่บ้าน ครัว และสระว่ายน้ำ
นับว่า “อุไทย เฮอริเทจ” เป็นที่พักแนวอนุรักษ์สุดคลาสสิคที่จะพาเราหวนนึกถึงช่วงเวลาดี ๆ ในวัยเด็กที่กำลังเรียน หรือกำลังเล่นกับเพื่อน ๆ อยู่ หากใครได้ไปเยือนจังหวัดอุทัยธานีแล้ว บูติกโฮเทลแห่งนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งที่พักที่น่าไปสัมผัส ซึ่งตั้งอยู่ที่ ซอยศรีอุทัย 11 ตําบลอุทัยใหม่ อําเภอเมือง จังหวัดอุทัยธานี ไม่ไกลจากวงเวียนหอนาฬิกา อุทัยธานี มากนัก
เที่ยว “วังเวียง” กุ้ยหลินเมืองลาว สัมผัสเสน่ห์ขุนเขา-สายน้ำ-ผู้คน
“เรือนพินรัตน์” สถาปัตยกรรมแห่งความทรงจำที่หลอมรวมบ้านไม้หลังเก่า รำลึกบุคคลที่รัก